Friday, 19 April 2024
NEWS

‘อนุทิน’ ร่วมต้อนรับ นทท.จีน เที่ยวบินแรก ย้ำ!! ไม่ต้องแสดงใบรับวัคซีนโควิด-19

(9 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการต้อนรับผู้เดินทางเที่ยวบินแรกหลังจากจีนเปิดประเทศ ว่า เที่ยวบินแรกมาจากเซี๊ยะเหมิน จำนวน 269 คน ในวันนี้จะมีเที่ยวบินจากจีนเข้ามา 15 เที่ยวบิน จำนวน 3,465 คน คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีผู้เดินทางจากจีนเข้าไทยราว 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนมีโควิด-19 มีราว 20 ล้านคน และผู้เดินทางจากทั่วโลกเข้าไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นสัญญาณดีต่อภาคการท่องเที่ยว คนมีงานทำ และมีโอกาส

“ทั้งหมดเข้ามาภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทย ซึ่งมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นมาตรการที่เหมือนกันสำหรับผู้เดินทางเข้าไทยจากทุกประเทศ และมั่นใจประเทศไทยมีความพร้อมรับผู้เดินทางจากทุกประเทศ ไม่มีการแบ่งแยกจนกว่าจะมีความจำเป็น” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับมาตรการผู้เดินทางเข้าไทยนั้น ยกเลิกการแสดงเอกสารฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป เนื่องจากคณะกรรมการวิชาการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีการประชุมเมื่อช่วงเช้า มีความเห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยครอบคลุมจำนวนมาก รวมถึง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็มีการฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว ขณะที่การกำหนดให้แสดงเอกสารฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดความไม่คล่องตัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องแสดง ฉะนั้น มาตรการเข้าไทยตอนนี้ คงเหลือต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดว่าเมื่อจะกลับเข้าประเทศนั้น ๆ จะต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อที่หากตรวจพบเชื้อแล้วต้องรักษาในประเทศไทย จะได้มีการรองรับค่าใช้จ่าย

สุดหาดูยาก!! ชัยภูมิจัดงาน สืบสานเลี้ยงโฮงปะกำ หมู่บ้านช้างคืนถิ่น หนึ่งเดียวในโลก เตรียมเปิดงานประจำเจ้าพ่อพญาแล หนึ่งปีมีให้ชมครั้งเดียว

วันที่ 9 ม.ค. 2566 ตั้งช่วงเช้าเวลา 06.30–10.00 น. ที่ผ่านมา ที่ลานชุมชนในหมู่บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งในทุกปีช่วงเดียวกัน ก่อนจะถึงวันเปิดงานเจ้าพ่อพญาแลประจำปี ที่จะมีการจัดสืบสานประเพณีโบราณถวายช้างคืนถิ่นต่อเจ้าเมืองคนแรก หรือเจ้าพ่อพญาแล (พระยาภักดีชุมพล) เจ้าเมืองคนแรกที่ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ ที่มีให้ชมเพียงแห่งเดียวในโลกมาแต่โบราณจนปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 12-20 มกราคม ของทุกปี และในปี 2566 นี้ ที่รอบอนุสาวรีย์เจ้าพญาแล กลางใจเมืองชัยภูมิ และบริเวณรอบหน้าศาลากลางจังหวัด ชาวชัยภูมิทั่วทั้งจังหวัดและชาวตำบลบ้านค่าย ซึ่งมีตำนานการเลี้ยงช้าง ตั้งเป็นค่ายทัพช้าง เพื่อฝึกช้างสู้ไปช่วยกองทัพไทยสู่รบและคล้องช้างเผือกถวายพระมหากษัตริย์ไทย มาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 2

ซึ่งชาวตำบลบ้านค่ายจะได้พร้อมใจกันจัดงานช้างคืนถิ่น เพื่อเป็นการยกย่อง และเชิดชูช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้าน คู่เมืองชัยภูมิและประเทศไทยมาช้านาน และก่อนช่วงใกล้ถึงวันเปิดงานเจ้าพ่อพญาแลอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ม.ค. 2566 เพื่อสืบสานประเพณีถวายช้างหนึ่งเดียวในโลกในปีนี้

ทาง นายพรเทพ วัชกีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้รับมอบหมายตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีนำจุดธูปเทียน สักการะดวงวิญญาณพ่อหมื่นแผ้ว บวงสรวงดวงวิญญาณพ่อหมื่นแผ้ว แห่พานบายศรีรอบอนุสาวรีย์พ่อหมื่นแผ้ว 3 รอบ คล้องพวงมาลัยอนุสาวรีย์พ่อหมื่นแผ้ว รำบวงสรวง แจกเครื่องบวงสรวงเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมในพิธี กันอย่างคึกคักไม่แพ้กว่าทุกปีที่ผ่านมาเช่นกัน และต่อด้วยพิธีเลี้ยงโฮงปะกำช้าง โดยมีครูบาช้าง บอกกล่าวเครื่องเซ่นไหว้โฮงปะกำ ทำพิธีถอดคางไก่เพื่อทำนาย โดยการเป่าสะแนงแกล (สะไน) ซึ่งทำมาจากเขาควายใช้เป่าในพิธีบวงสรวง ตามประเพณีโบราณที่ได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา

โดยการจับช้าง เลี้ยงช้างของชุมชนคนบ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตามหลักฐานทางประวัติเชื่อว่า ชุมชนแห่งนี้เคยเป็นกองช้างหลวง หรือสถานที่เลี้ยงช้าง ฝึกช้างเพื่อใช้ในราชการศึกสงคราม ตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินตอนต้น มีหมื่นแผ้วเป็นหัวหน้า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงแต่งตั้งให้นายแล ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก มียศเป็นพระยาภักดีชุมแล (แล) เมื่อปี พ.ศ.2369 หมื่นแผ้วยังคงทำหน้าที่จับช้างมาเลี้ยง และฝึกช้างส่งให้กับเจ้าเมืองไว้ใช้งาน

ต่อมาภายหลังบ้านเมืองสงบสุข ไม่ได้นำช้างมาใช้ในศึกสงคราม กองช้างหลวงจึงถูกยกเลิกไป แต่ภูมิปัญญาในการเลี้ยงช้าง ที่สั่งสมจากรุ่นสู่รุ่น ยังคงหลงเหลือและสืบต่อมาถึงคนรุ่นปัจจุบัน ลูกหลานคนบ้านค่าย จึงมีความผูกพันกับช้างมาโดยตลอด จึงเปลี่ยนมาฝึกช้างเพื่อการแสดงโชว์ความสามารถหรือช้างแสนรู้ ออกไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในทั่วประเทศ และต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดชัยภูมิ มาจนปัจจุบัน

เหล่านักวิ่งกาฬสินธุ์กว่าพันคน ร่วม "เดิน วิ่ง ฆ้อง ซิ่ง เลาะ ชี" ครั้งที่ 1

นักวิ่งจากจังหวัดกาฬสินธุ์ และใกล้เคียง กว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรม “เดิน วิ่ง ฆ้อง ซิ่ง เลาะชี ครั้งที่ 1” ซึ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย และหาทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน ตามโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา 06.00 น. นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ปล่อยตัวนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขัน “เดิน วิ่ง ฆ้อง ซิ่ง เลาะ ชี ครั้งที่ 1” ซึ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย และหาทุนสำหรับทุนการศึกษา ให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนตามโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอ โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ Fun Run ระยะทาง 5.5 กม. และขง Mini Marathon ระยะทาง 10.5 กม. โดยมีนักวิ่งจากจังหวัดกาฬสินธุ์ และใกล้เคียงเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 1,000 คน

อนุทิน เผย อุปทูตจีน ขอบคุณไทยไม่เลือกปฏิบัติ รับ นทท.เท่าเทียม ชี้ ซื้อประกันโควิด-19 รองรับหากติดเชื้อก่อนขึ้นเครื่องกลับ ปท.

เมื่อวานนี้ (5 ม.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาประเทศ ว่า สำหรับข้อกำหนดเรื่องการซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ในประเทศที่มีข้อกำหนดว่า จะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศ ก็เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย เพราะหากก่อนขึ้นเครื่องแล้วผลเป็นบวก ก็ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ดังนั้น ก็ต้องมีประกันมารองรับ ส่วนเรื่องวงเงินประกันขั้นต่ำ เป็นเรื่องที่ทุกประเทศที่มีกำหนดอยู่แล้ว เป็นปกติของการเดินทาง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล

ปักหมุด! “หนองไข่น้ำ” เหมาะสมสุด ผุด “ท่าเรือบกโคราช” 8 พันล้าน ดันโคราชศูนย์กลางโลจิสติกส์อีสาน

“สถานีรถไฟบ้านกระโดน” ตำบลหนองไข่น้ำ เหมาะสมสุด สร้าง “ท่าเรือบกโคราช” มีพื้นที่กว้าง 2,000ไร่ เป็นทุ่งนาไม่มีปัญหาเวนคืน ส่วน “กุดจิก” อำเภอสูงเนิน จุดเดิมมีปัญหาน้ำท่วม ด้าน กทท.ยัน ผุดแน่ท่าเรือบกโคราช 8 พันล้าน ดึงเอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP คาดสร้างเสร็จปี 69-70 ดันโคราชเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภาคอีสาน

วันที่ 5 ม.ค. 2566 นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดตั้งท่าเรือบก (Dry Port) จังหวัดนครราชสีมา หรือท่าเรือบกโคราช ว่า หลังจากคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทยและคณะผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ลงมาดูพื้นที่แล้วพบว่าจุดที่เหมาะสมในการดำเนินการสร้างท่าเรือบก คือพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่เกือบ 2,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาชาวบ้าน และไม่น่าจะเป็นปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินและการจ่ายค่าชดเชยต่าง ๆ

สำหรับสถานที่ดังกล่าวนี้มีจุดขนส่งสินค้า (Container Yard :CY) เดิมตั้งอยู่แล้ว ปัจจุบันมีการขนส่งเกลือโดยเอกชน และยังเป็นจุดเชื่อมจากถนนวงแหวนรอบเมือง หมายเลข 290 ที่เชื่อมกับเส้นทางรถไฟได้ด้วย คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท แต่จะเป็นรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน (PPP-Public Private Partnerships)

ส่วนอีก 2 พื้นที่ คือ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา และบ้านทับม้า ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นั้นมีความเหมาะสมน้อยกว่า โดยเฉพาะที่ อ.สูงเนิน มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม หากมีการก่อสร้างอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่โดยรอบและจะมีปัญหาตามมาเพราะมีพื้นที่ชุมชนอยู่ด้วย

นายภูมิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่การท่าเรือฯ จะว่าจ้างที่ปรึกษาซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทีมที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) ในการศึกษาทบทวนพื้นที่ ต.หนองไข่น้ำ เพื่อลงในรายละเอียดต่าง ๆ ให้สมบูรณ์แบบ และเดินหน้าในการก่อสร้างต่อไป

“โครงการจัดตั้งท่าเรือบกโคราชจะเริ่มได้พร้อมกับโครงการจัดตั้งท่าเรือบกขอนแก่น หรือทำคู่ขนานกันไป ในส่วนของจังหวัดนครราชสีมา เรามีความพร้อมให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้โคราชเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายภูมิสิทธิ์กล่าว

ทั้งนี้ โครงการจัดตั้งท่าเรือบกจังหวัดนครราชสีมา สืบเนื่องจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคมให้ดำเนินงานศึกษาจัดทำแผนพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยผลการศึกษาพบว่าพื้นที่ที่เหมาะสมจะพัฒนาท่าเรือบกมี 4 จังหวัด ได้แก่ 1.) อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 70 กิโลเมตร 2.) ตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง 720 กิโลเมตร 3.) อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง 550 กิโลเมตร และ 4.) อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง 370 กิโลเมตร

การลงทุนจะเป็นในรูปแบบรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP-Public Private Partnerships) โดยรัฐจะจัดหาที่ดิน ซึ่งต้องดูความเหมาะสม เพราะใช้พื้นที่จำนวนมาก อาจเป็นพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว หรือต้องเวนคืนเพิ่มเติม ส่วนเอกชนทำหน้าที่บริหารจัดการ

โดยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมานั้น หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาอนุมัติและมีการศึกษาความเหมาะสมในพื้นที่ตำบลกุดจิก อ.สูงเนิน แล้ว แต่ต่อมาเนื่องจากสถานการณ์และบริบทหลายอย่างเปลี่ยนไป จังหวัดนครราชสีมาจึงนำเสนอพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อ.เมืองนครราชสีมา และบ้านทับม้า ตำบลสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

ทางด้าน นายสมชาย เหมทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้มีท่าเรือบกในโคราช ซึ่งเดิมทีศึกษาไว้ที่พื้นที่ตำบลกุดจิก อ.สูงเนิน แต่ปัจจุบันด้วยสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ล่าสุดทาง กทท.ได้ลงไปดูพื้นที่ ทำให้เห็นถึงศักยภาพของโคราชและความพร้อมเรื่องของบุคลากร นโยบาย โดยทุกหน่วยงานในจังหวัดนครราชสีมาให้การสนับสนุนเต็มที่ ส่วนการท่าเรือนั้น หลังจากนี้จะต้องมีการปรึกษากันอีก ถ้ามีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่จัดตั้งโครงการต้องเสนอเรื่องใหม่ให้ ครม.เห็นชอบ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากพื้นที่ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน ไป ต.หนองไข่น้ำ อ.เมืองนครราชสีมา หรือบ้านทับม้า อ.สีคิ้ว ที่ใดที่หนึ่ง ทั้งนี้ ต้องมาดูว่าศักยภาพเป็นไปได้หรือไม่ เรื่องการลงทุนอาจจะสูงในหลายเรื่อง จึงต้องมาปรึกษากันว่าที่ใดเหมาะสมที่สุด

นายสมชายกล่าวต่อว่า ท่าเรือบกทำแน่ ๆ ให้ความเชื่อมั่นได้เลยว่าที่โคราชต้องมี ส่วนที่จังหวัดอื่นไม่ได้ทิ้ง ซึ่งในแต่ละพื้นที่สินค้าจะต่างกัน ความสำคัญก็ต่างกันไป แต่ใครจะเป็นศูนย์กลางนั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับเราจะหาผู้ที่มาร่วมลงทุนกับการท่าเรือในรูปแบบ PPP

สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างท่าเรือบกโคราชนั้น เดิมที สนข.พิจารณาไว้ว่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท แต่หากศึกษาใหม่อาจจะเพิ่มขึ้น เพราะเดิมศึกษาไว้ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งเป็นการประมาณโดยใช้ค่าเงินในตอนนั้น หรืออาจจะลดลง เพราะพื้นที่โครงการที่ สนข.ศึกษาประมาณ 2,000 ไร่ ความจริงใช้แค่ 1,000 ไร่ก็เพียงพอ ขึ้นอยู่กับการออกแบบ มีคลังสินค้า มีครบทุกอย่าง เรื่องงบประมาณต้องศึกษาต่อไป และอาจจะมีบุคคลที่สามมาทำการศึกษาให้

‘อนุทิน’ ชี้ ประเทศไหนที่ต้องตรวจโควิดก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพ ไม่เฉพาะแค่ประเทศจีน

‘อนุทิน’ ยันมาตรการรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ รัดกุม เผยให้ซื้อประกันสุขภาพ สำหรับประเทศตีกรอบต้องตรวจRT-PCR พร้อมจับมือตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกฯ ลั่น!! อย่าตระหนก จนเสียโอกาสฟื้นเศรษฐกิจ เผยจับมือ ‘ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์’ รับนักท่องเที่ยวไฟลท์แรกถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 12 ม.ค.นี้

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกระทรวงคมนาคม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าร่วม ว่า วันนี้เป็นการทำความเข้าใจเรื่องของการรับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านการคมนาคม ท่องเที่ยว และสาธารณสุข โดยแต่ละหน่วยงาน รับทราบมาตรการและรับปฏิบัติ ขณะที่ กทม.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ยืนยันว่ามีมาตรการพร้อมรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ และสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ตลอดตามความเหมาะสม โดยจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารขอให้คงมาตรฐานชาพลัส (SHA+) ผู้ให้บริการสวมหน้ากากอนามัย

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าประเทศที่มีข้อกำหนดให้นักท่องเที่ยวจะต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศตัวเองนั้น จะต้องซื้อประกันสุขภาพ ทุกประเทศไม่เฉพาะแค่ประเทศจีนประเทศ โดยเงื่อนไขของประกันเป็นไปตามหลักสากลในการรักษาพยาบาล และยังครอบคลุมโควิด-19 หากตรวจพบสามารถรักษาตามปกติ ส่วนประเทศใดที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจRT PCR ขอแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไว้เช่นกัน เพื่อความสะดวกด้านต่างๆ หากมีการติดเชื้อหรือเจ็บป่วย จะมีสถานที่รักษา สำหรับประเด็นค่าเหยียบแผ่นดิน ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวถือเป็นคนละเรื่องกัน และยังไม่ได้มีผลบังคับใช้

ฮือฮา!! ผึ้งทำรังหลังคารถนักเรียน เจ้าของเผย ฝันเห็นเลขเด็ด คอหวยส่องเลขทะเบียน

วันที่ 5 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท รับแจ้งจาก นายมานิตย์ วิเศษโวหาร อายุ 46 ปี ชาวบ้านบ้านหนองไฮ ตำบลบ้านดุง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เจ้าของรถปิคอัพวีโก้ สีขาวด้านหลัง ใส่หลังคาเป็นรถรับส่ง ทะเบียน ผน 3637 อุดรธานี มีผึ้งมาทำรังอยู่ราวเหล็กหลังคารถ ซึ่งจอดไว้ที่ลานจอดรถห้างบิ๊กซีในอำเภอบ้านดุง ขอให้ช่วยมาออกไปด้วยเพราะกลัวผึ้งแตกรังทำร้ายนักเรียน

ต่อมา นายวีระพล หรือ แอดอุ้ย ได้มาถึง สังเกตเห็นว่า ผึ้งเพิ่งมาเริ่มสร้างรัง แต่ยังไม่เสร็จดี คาดว่าเพิ่งจะบินมาเกาะเพื่อสร้างรังได้ไม่นาน จากนั้นแอดอุ้ยได้ใส่ชุด ppe เพื่อป้องกันผึ้งต่อยและได้ใช้ถุงพลาสติกไปห่อเอารังผึ้งออกจากคานเหล็กรถรับส่งนักเรียน นำไปปล่อยป่าได้อย่างปลอดภัย

นายมานิตย์ เจ้าของรถรับส่งนักเรียน เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้ ลูกสาวตนเองคือ น้องเนิร์ด ได้ขับรับส่งนักเรียนมาซื้อของภายในห้างบิ๊กซี ก่อนจะเตรียมไปรับนักเรียนในช่วงเวลาเลิก พอซื้อของเสร็จได้กลับมาที่รถได้เห็นผึ้งบางตัวบินรอบรถ ลูกสาวก็ตกใจโทรเรียกพ่อและแม่มาดู พอตนเองมาดูชำเลืองไปเห็นผึ้งทำรังอยู่หลังคารถบริเวณคานเหล็กอยู่ด้านหน้า ก็ตกใจว่ามาอยู่ได้อย่างไรและอีกอย่างกลัวจะเป็นอันตรายสำหรับเด็ก ๆ ที่จะไปรับ อาจจะทำให้ผึ้งแตกรังมาต่อยได้ จึงแจ้งให้คนมาช่วยดังกล่าว

‘ศักดิ์สยาม’ ลงนามตั้ง 10 คณะกรรมการ สอบปมเปลี่ยนป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ

(5 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ’ เป็น ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แล้ว

โดยประกาศเนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) และ เว็บไซต์ข่าว เกี่ยวกับการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาทเศษ (วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจำนวน 34 ล้านบาท) มีราคากลางคำนวณ ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2566 จำนวน 33,169,726.39 บาท โดยใช้วิธีการจัดซื้อหรือจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ที่ได้รับ การคัดเลือกและราคาที่ตกลงซื้อหรือจ้าง ได้แก่ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

เป็นเหตุให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ รวมถึงนายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่ใช่เหตุของความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการว่าจ้างปรับปรุงป้ายชื่อที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าปกติ

6 โรงเรียนชายแดนไทย-ลาว จ.อุบลราชธานี รับมอบโรงผลิตน้ำดื่ม RO หลังมีแต่น้ำฝน-น้ำบาดาล

วันที่ 5 ม.ค. 2566 ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มอบอาคารน้ำดื่มสะอาดระบบ RO เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ติดชายแดนไทย-ลาว ในจังหวัดอุบลราชธานี มีน้ำดื่มสะอาดไว้ดื่ม ตามนโยบาย "เติมความสุขให้กับคนไทย ตามแนวทางวิถีใหม่ จากใจทหาร" กระทรวงกลาโหม

พันเอกสิทธิชัย เสาวคนธ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ส่งมอบอาคารน้ำดื่มสะอาดในระบบ RO เป็นของขวัญปีใหม่ แก่โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านพลาญชัย, โรงเรียนบ้านห้วยเดื่อ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเหล่าคำ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนก่อ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านแก่งศรีโคตร และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบากชุม ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทั้ง 6 แห่ง ตั้งอยู่ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดนไทย-ลาว ที่ผ่านมาเด็กนักเรียนต้องอาศัยน้ำดื่มจากน้ำฝน และน้ำจากบ่อบาดาล เนื่องจากที่ตั้งของชุมชนอยู่ในชนบทที่ห่างไกลจากแหล่งผลิตน้ำดื่มสะอาด ทำให้เด็ก ๆ และชาวบ้านมีปัญหาโรคนิ่วในไตเพราะจากน้ำดื่มไม่สะอาด

‘อนุทิน’ ย้ำ มาตรการดูแลนักท่องเที่ยวทุกชาติเท่าเทียม ชี้ ปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยน วอน อย่าตั้งป้อมรับจีน เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ว่า วันนี้ข้อสรุปแต่ละมาตรการมีอยู่แล้ว และจะนำมาหารือและแจ้งให้แต่ละหน่วยงานทราบในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเขามาในไทย ที่คาดว่าในต้นปีจะมีประมาณ 4-5 หมื่นคน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบมาตรการรองรับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แล้วจะสอบถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน ที่เปรียบเหมือนการทำประกันของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วย ไม่เฉพาะโควิด-19 จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ จะได้มีงบประมาณดำเนินการ ขณะที่ระบบสาธารณสุขของไทย ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็มีงบประมาณก้อนหนึ่งสำหรับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่านักท่องเที่ยวจีนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ถึงสนามบินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้กรมควบคุมโรค จะกำหนดมาตรการออกมาตามสถานการณ์ และจะมีข้อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ และต้องทำเต็มที่กับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะใช้มาตรการที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และเรารับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับจีน แต่อีกทางจะต้องเน้นที่ตัวเองต้องหุ้มเกราะ คือฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อย 4 เข็มเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและพื้นที่แออัด ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน เขามีการตรวจก่อนเดินทางออกนอกประเทศและเมื่อกลับเข้าประเทศ ในขณะที่สถานทูตจีน ได้ประสานกับโรงพยาบาลที่จะทำการรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ไม่ได้แบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติไหน เพราะเราถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ละคนก็มาจากประเทศที่มีการติดเชื้ออยู่ที่ว่าจะเป็นเชื้อใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นเชื้อใหม่ มาตรการรับมือก็เปลี่ยนได้ ดังนั้นอย่านำมาตรการของไทยไปเทียบกับประเทศอื่น เพราะนี่ประเทศไทยไม่เหมือนกัน

‘อนุทิน’ แจงมาตรการป้องกันโควิดรับนักท่องเที่ยวยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติ เน้นรับวัคซีน มีประกันสุขภาพ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อการเฝ้าระวัง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เตรียมเสนอวันที่ 5 มกราคมนี้ ยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ ตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 พร้อมสื่อสารมาตรการป้องกันตนเอง คาดนักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเดินทางมาไตรมาสแรก 3 แสนคน สามารถวางแผนรับมือได้อย่างเป็นระบบ

(4 ม.ค.66) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมรองรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลวันที่ 25-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 รายต่อวัน โดยเกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เว้นระยะห่างทุก 4 เดือน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรับบริการวัคซีนเพิ่มขึ้น 277,206 โดส สะสม 145,928,256 โดส โดยเป็นเข็มแรกร้อยละ 82.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 77.7 เข็มที่ 3 ร้อยละ 38.9 และเข็มที่ 4 ร้อยละ 9.1

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจีนเตรียมเปิดประเทศ จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน คาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ

ศปถ. จังหวัดนครพนมเร่งถอดบทเรียนอุบัติเหตุ ปรับแผนสร้างความปลอดภัย

วันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ห้องประชุมพระธาตุท่าอุเทน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) พลตำรวจตรี ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นำคณะทำงานประจำศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 จังหวัดนครพนม ร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์กับคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ส่วนกลาง กระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ก่อนที่จะประชุมร่วมกับแต่ละอำเภอ เพื่อถอดบทเรียนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นจังหวัดนครพนม ซึ่งในวันที่ 2 มกราคม 2566 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากอุบัติอำเภอนาแก เพื่อวางแผนปรับการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทำให้ผู้ที่สัญจรไปมามีความปลอดภัยสูงสุด

โดยเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 1 รายในครั้งนี้ เป็นคนแก่อายุ 82 ปี ที่จะเดินข้ามถนน ในช่วงเลา 16.00 น. แต่ถูกรถตู้โดยสารไม่ประจำทางชนเสียชีวิต บริเวณบ้านสีชมพู่ หมู่ 2 ตำบลสีชมพู่ อำเภอนาแก ซึ่งในการถอดบทเรียนพบว่า บริเวณเกิดเหตุเป็นถนนทางเรียบลาดยางที่รถสามารถทำความเร็วได้ ทั้งยังใกล้กับที่มีการตั้งด่าน แม้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่านจะมีการร้องห้ามไม่ให้ผู้เสียชีวิตข้ามถนนแต่ก็ไม่ทัน ดังนั้นในจุดนี้ที่ประชุมเห็นควรให้ทุกจุดทำการตรวจสอบระยะการติดป้ายแจ้งเตือนและสัญลักษณ์อื่น ๆ ให้ผู้ขับขี่มองเห็นในระยะที่ไกลเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น

ชัยภูมิ แห่ใช้บริการโรงตึ๊งแน่น!! หลังฉลองวันปีใหม่ 66

(3 ม.ค.66) เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งกว่าทุกปีที่ผ่านมา หลังช่วงวันเทศกาลต้อนรับปีใหม่ในปี 2566 นี้ บรรยากาศที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ แหล่งที่พึ่งของประชาชนที่ขาดสภาพคล่อง หลังลูกหลานเดินทางมากลับเยี่ยมบ้าน ในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ช่วงวันที่ 31 ธ.ค.65 – 2 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สถานธนานุบาล หรือ โรงตึ๊ง จัดโปรโมชั่นช่วยเหลือประชาชนปลอดดอกเบี้ย 3 เดือน ต่างมีประชาชนในพื้นที่นำสิ่งของมาจำนำเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ที่สถานธนานุบาลของเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เปิดทำการเป็นวันแรกของปีใหม่ พ.ศ.2566 นี้ ต่างก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงเปิดทำการ มีประชาชนขาดสภาพคล่อง และจำเป็นต้องใช้เงิน โดยการนำสิ่งของมีค่าที่มีพอจะหาได้ภายในบ้าน มาใช้บริการที่สถานธนานุบาล หรือ โรงรับจำนำ หรือ โรงตึ๊ง ที่ประชาชนทั่วไปทราบกัน เพื่อต้องการเงินไปใช้จ่ายหมุนเวียนในครอบครัวตั้งแต่ต้นเดือนต้นปี 2566 ในปีนี้

ทำให้บรรยากาศที่โรงตึ๊ง ที่ จ.ชัยภูมิ ในปีนี้มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมากกว่าทุกปีในช่วงเดียวกัน ซึ่งสิ่งของที่นำมาจำนำในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นทองคำรูปพรรณ สร้อยคอ และแหวน สูงมากกว่า 90 % รองลงไปจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือช่าง อุปกรณ์ในการทำมาหากิน อุปกรณ์ในการประกอบอาชีพเครื่องสูบน้ำ

ศรีสะเกษ-หนุ่มเมาซิ่งเก๋งชน จยย. เหินข้ามเลนตกทับเก๋ง ดับยกครัว 5 ศพ พ่อแม่ลูก

เหตุสลดรับปีใหม่ หนุ่มเมาซิ่งเก๋งชนท้าย จยย. ก่อนเสียหลักข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนรถฮอนด้า เสียชีวิตยกครัว 5 ศพ พ่อแม่ลูก บนถนนสาย 226 กันทรารมย์-อุบลราชธานี ส่งผลให้ 7 วันอันตราย เสียชีวิตแล้ว 8 ราย ที่จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 66 เวลา 14.30 น. พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.กันทรารมย์ รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ถนนสาย 226 กันทรารมย์-อุบลราชธานี บริเวณหน้าปั๊มพีที ช่วงปากทางเข้าบ้านโนนสังข์ ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จึงรายงานให้ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ทราบ ก่อนมอบหมาย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เดินทางออกมาร่วมตรวจสอบอุบัติเหตุใหญ่ ที่ทราบว่ามีการเสียชีวิตคราวเดียวจำนวน 5 ศพ ซึ่งมากที่สุดในขณะนี้

โดยเหตุเกิดจากรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 1252 อุบลราชธานี โดย นายลิขิต ตารัตน์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 8 ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นคนขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน 5045 อุบลราชธานี โดยมีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ขับมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอกันทรารมย์ ได้รับบาดเจ็บ

ขอนแก่น เปิดงานรณรงค์ร่วมใจสวมหมวกนิรภัย 100% และเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 เน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

วันนี้ (29 ธ.ค. 65) ที่ศาลาผูกเสี่ยว สนามศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นางสาวธนียา นัยพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ, นักเรียน, นักศึกษา, องค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐ, ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกิจกรรมรณรงค์ “จังหวัดขอนแก่น ร่วมใจ สวมหมวกนิรภัย 100%” เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกประชาชนได้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างจริงจัง และพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 4 มกราคม 2566 รวม 7 วัน

โดยใช้ชื่อการรณรงค์ว่า “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ มีเป้าหมายลดจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด โดยยึดแนวทางตามมาตรการ 5 มาตรการ ประกอบด้วย

1.) มาตรการด้านการบริหารจัดการ

2.) มาตรการด้านรถปัจจัยเสี่ยงด้านคนและสภาพแวดล้อม

3.) มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงยานพาหนะ

4.) มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย

5.) มาตรการด้านการช่วยเหลือ โดยบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วนทั้งระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อลดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

นางสาวธนียา นัยพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น วางมาตรการเข้มข้นในการลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะด้านวินัยจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย 100% และมาตรการห้ามดื่มสุราในขณะขับขี่ ให้มีการตรวจจับอย่างเข้มข้น


© Copyright 2022, All rights reserved. Esan Time Thailand
Take Me Top