Tuesday, 16 April 2024
NEWS

บรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า

 

คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ซึ่งทีมทนายความ ได้มีการซักซ้อมพยานและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า รูปคดีฝ่ายโจทก์มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ โดยสามารถตัดพยานบางปากออกไปได้เพื่อความรวดเร็วในพิจารณาคดีของศาล

 

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการไลฟ์สดของนายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร มาประกอบการอ้างอิงต่างๆนานาด้วย จึงเป็นประเด็นที่ทีมกฎหมายต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ หักล้าง

 

โดยเห็นสมควรต้องนำพยานที่ถูกพาดพิง ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการบรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง และคิดว่า เป็นประโยชน์ต่อตัวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย ทีมกฎหมายจึงได้บรรจุชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไว้ในบัญชีพยาน

 

โดยที่ยังไม่ได้แจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ทราบ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทีมกฎหมายพยายามประสานงานไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อ พบปะ พูดคุย หรือแจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบได้ การดำเนินการต่อจากนี้ก็จะได้มีการประสานและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้กับพยานแต่ละท่านทราบ แต่หากพยานท่านหนึ่งท่านใดไม่ประสงค์จะขึ้นเบิกความ ก็สามารถถอนรายชื่อออกไปจากบัญชีพยานได้

 

ดอกซากุระไทย

ดอกกัลปพฤกษ์ สีชมพูกำลังเบ่งบานสะพรั่ง บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่วันนี้ (12 มี.ค. 66) ต้อนรับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

.

ที่บริเวณลานกางเต็นท์สำรองเขาร่ม กำลังกลายเป็นสีชมพูด้วยดอกกัลปพฤกษ์ที่เรียงแถวเบ่งบาน เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเช็คอิน

.

โดยดอกกัลปพฤกษ์นี้จะสามารถชมได้เพียงแค่ช่วงนี้ช่วงเดียวเท่านั้น โดยเชื่อกันว่า ต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้สิริมงคล หากปลูกต้นไม้พันธุ์นี้จะเกิดแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

.

ที่มา : ช่อง 7

.

#อีสานไทม์

คุณธรรมต้นแบบ

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสุเทพ ศรบุญทอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เปิดเผยว่า ด้วยคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการด้านการประเมินชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรม ตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ได้กำหนดให้มีกระบวนการในการพัฒนาคุณธรรมแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับส่งเสริมคุณธรรม ระดับคุณธรรม และระดับคุณธรรมต้นแบบ โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 พบว่า ผ่านการประเมินทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 39,102 แห่ง และผ่านการคัดเลือกจากคณะอนุกรรมการฯ ส่งเสริมคุณธรรมระดับจังหวัด กรุงเทพฯ และกระทรวง เป็นชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น จำนวน 243 แห่ง ซึ่งมีผลการดำเนินงานสำเร็จตามเป้าหมายตามเกณฑ์การประเมิน อาทิ การประกาศเจตนารมณ์เป็นชุมชน องค์กร อำเภอ จังหวัดคุณธรรม การกำหนดเป้าหมาย “ปัญหาที่อยากแก้ ความดีที่อยากทำ” การยึดมั่นในหลักธรรมทางศาสนา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และคุณธรรม 5 ประการ ด้านพอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู

.

นายสุเทพ ศรบุญทอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เปิดเผยต่อไปว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ประจำปี พ.ศ.2565 จากคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ โดยตนได้เดินทางไปรับมอบโล่เกียรติคุณ ซึ่งลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม รองประธานกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 ที่ห้องนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารหอศิลปินแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพฯ

.

ข่าวภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ

.

#อีสานไทม์

ร้อนระอุตั้งแต่ยังไม่มีการลงสมัครเลือกตั้ง

สนามเลือกตั้ง ส.ส. ที่ใกล้จะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อ.นาแก, อ.ปลาปาก, อ.วังยาง และ ต.บ้านผึ้ง, ต.กุรุคุ, ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม ร้อนระอุตั้งแต่ยังไม่มีการลงสมัคร

 

โดย เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 นครพนม พร้อมทีมงานเดินทางไปยัง สภ.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม นำหลักฐานภาพถ่ายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.กังวาน โคตรตะวงศ์ สว.(สอบสวน) หลังถูกผู้ไม่หวังดีป่วนทำลายป้ายแนะนำตัว และป้ายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ได้รับความเสียหายหลายจุด

 

โดยจุดแรกเป็นป้ายนายณพจน์ศกรถ่ายคู่กับ น.ส.แพรทองธาร ติดตั้งไว้ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033 สายหนองญาติ-นาแก ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท. ป้ายนี้คนร้ายคาดใช้มีดคัตเตอร์หรืออาจเป็นสปาร์ต้า กรีดทำลายตรงภาพจนเสียหาย ส่วนจุดที่สองอยู่ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2276 สายหนองฮี – ปลาปาก จุดที่สามอยู่หน้าตลาดชุมชน ต.หนองฮี โดนทำลายถึงสองป้าย และจุดที่สี่อยู่ปากทางเข้าวัดป่าเมธาวิเวก รวม 6 ป้าย

 

ต่อจากนั้นนายณพจน์ศกร ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.บรรจบ แสนศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.พระซอง อ.นาแก แจ้งความเอาผิดกับผู้ทำลายป้ายที่ปักไว้ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2031 สายพระซอง-เรณูนคร จุดแรกหน้าโรงสี ส.อำนวยค้าข้าว จุดที่สองหน้าโรงเรียนมัธยมพระซองสามัคคี และจุดที่สามบริเวณสามแยกบ้านนาเหนือหน้าวัดศรีสว่าง ป้ายตรงจุดนี้ถูกมือดียกป้ายแนะนำตัวอันตรธานหายไป 3 ป้าย และเป็นที่น่าสงสัยคือมีป้ายแนะนำตัวของนายณพจน์ศกร

 

ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเทศบาลตำบลพระซอง ก่อนหน้านี้ได้ถูกคนร้ายยกหายไปแล้ว พอวันนี้ป้ายดังกล่าวถูกนำมาปักไว้คืนที่เดิม

 

จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. นายณพจน์ศกรได้เข้าพบ พ.ต.ท.สังเวียน ศรียศ สว.(สอบสวน) สภ.นาแก หลังป้ายแนะนำตัวถูกทำลาย 1 จุด บริเวณริมถนนบ้านต้นผึ้ง ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 223 สายนาแก-ธาตุพนม รวมเสียหายทั้งหมด 10 ป้าย มูลค่าความเสียหายรวมค่าติดตั้งป้ายละ 700 บาท รวมเป็นเงิน 7,000 บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

สำหรับป้ายแนะนำตัวของนายณพจน์ศกร ที่ถ่ายคู่กับหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตรวจสอบพบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยใช้คัตเตอร์ หรือมีดสปาต้า กรีดสับที่ใบหน้าของ น.ส.แพรทองธาร และนายณพจน์ศกร จนไม่เห็นโครงเค้าป้าย โดยที่หน้าโรงเรียนมัธยมพระซองสามัคคี คนร้ายถึงขนาดถอดป้ายไวนิลไป เหลือแต่โครงไม้ให้ดูต่างหน้า ส่วนที่พบว่าหนักสุดคือจุดหน้าตลาดชุมชนหนองฮี เสียหายถึง 6 ป้าย

 

นายณพจน์ศกร กล่าวว่า วันนี้ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กรณีป้ายถูกทำลายและสูญหายใน 3 ท้องที่ คือ จุดแรกที่ สภ.หนองฮี อ.ปลาปาก จุดที่ 2 สภ.พระซอง อ.นาแก และจุดที่ 3 สภ.นาแก ในทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีการทำลายป้ายที่ ต.หนองฮี 6 ป้าย ทุกป้ายพังเสียหายหมด ที่ สภ.พระซอง นั้นป้ายหายไป 2 แผ่นและมีป้ายถูกทำลาย 1 แผ่น และที่ สภ.นาแก มีป้ายถูกทำลาย 1 แผ่น

 

“ดูตามพฤติการณ์แล้วพบว่าเป็นการเจาะจงและมีเจตนาที่จะทำลายป้ายหาเสียงของพรรค และป้ายแนะนำตัวเองของตนโดยเฉพาะ จึงมาแจ้งความเพื่อให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอาญาให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยพื้นที่ สภ.หนองฮี แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ สภ.พระซอง มีฐานความผิด 2 ข้อหาคือลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ ส่วน สภ.นาแก ทำให้เสียทรัพย์ เท่าที่ทำการเมืองมานานไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นครพนม

 

โดยเฉพาะพื้นที่เลือกตั้งเขต 4 คือ อ.นาแก อ.ปลาปาก อ.วังยาง ที่ผ่านมาผู้ที่ขันอาสาลงสมัครทุกคนก็จะหาเสียงไป ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน อยู่ที่พี่น้องประชาชนจะตัดสิน ครั้งนี้พบว่ามีการขโมยป้ายหาเสียง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติของคู่แข่งทางการเมือง” นายณพจน์ศกร ระบุ

 

ล่าสุด ชุดสืบสวน สภ.หนองฮี ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าตลาดชุมชน ต.หนองฮี แล้ว พบว่ามีชาย 2 คน สวมใส่ชุดไอ้โม่งคลุมหน้า ขณะใช้ของมีคมกรีดทำลายป้ายช่วงเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งกำลังตรวจสอบเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยพื้นที่ สภ.หนองฮี มีกล้องวงจรปิดถึง 130 ตัว และกำลังไล่เช็กเส้นทางการหลบหนี พร้อมป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อแหตุ

 

‘Mekha V’ รับรางวัล ‘Microsoft Partner of the Year 2022’ ตอกย้ำการมุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.


เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา ‘Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข’ สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท.

 

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

 

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

 

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

 

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

 

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดอันดับองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดของโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. ที่แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต

 

ปตท. พร้อมเป็นพลังสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและการก้าวสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล (AI & Robotics & Digitalization) เป็นต้น

 

 

การเตรียมพร้อมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พื้นที่จังหวัดนครพนมทั้ง 4 เขต

วันที่ 8 มี.ค.2566 - การเตรียมพร้อมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พื้นที่จังหวัดนครพนมทั้ง 4 เขต ในสมัยที่จะมาถึงนี้ นับวันอุณหภูมิยิ่งร้อนระอุ ยิ่งมีกระแสเรื่องยุบสภาก่อนกำหนด ทำให้ประชาชนฝั่งพรรคประชาธิปไตย ออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด นางปรานี แสนมิตร อายุ 58 ปี ผู้ประสานงานมวลชนคนเสื้อแดงจังหวัดนครพนม หรือแกนนำ นปช. คนเสื้อแดง ได้ระดมพลแกนนำคนเสื้อแดง ออกมาประกาศจุดยืนให้การสนับสนุน นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม อาชีพทนายความ

โดยก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ได้เคาะชื่อวางตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส. นครพนม เขต 4 ประกอบด้วยพื้นที่ อ.วังยาง อ.นาแก อ.ปลาปาก และ อ.เมืองนครพนมบางส่วน พร้อมยืนยันว่า กลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 4 ให้การยอมรับ นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์

เนื่องจากทำงานการเมืองมานานกว่า 35 ปี เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชายมาตลอด คือ นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.7 สมัย และเคยเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ของพรรคไทยรักไทย หลังพรรคถูกยุบจึงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
แต่ด้วยอุดมการณ์ที่เหนียวแน่นต่อระบบประชาธิปไตย

จึงนำน้องชาย คือ นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ขณะนั้นเป็นเลขาฯ ส.ส.อรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ สานต่ออุดมการณ์ทางการเมืองมาตลอด โดยที่ผ่านมานายณพจน์ศกรไม่มีโอกาสเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพราะมีการวางตัวผู้สมัครครบทุกเขต จึงต้องไปหาประสบการณ์พรรคการเมืองอื่น

จนกระทั่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดี นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคเพื่อไทย ย้ายไปสังกัดพรรคไทยสร้างไทย ทำให้ นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ มีโอกาสมาร่วมอุดมการณ์การเมืองกับกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงนครพนม รวมถึงพี่น้องประชาชนเขตเลือกตั้งที่ 4 ทั้งนี้ทางแกนนำคนเสื้อแดงนครพนม

พร้อมให้การสนับสนุน สร้างแลนด์สไลด์ต่อสู้กับฝ่ายเผด็จการ ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง “แม้จะมีนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง พยายามหาเรื่องโจมตีต่างๆนาๆ เพื่อหยิบชิ้นปลามันเป็นผู้สมัครแทน แต่แกนนำคนเสื้อแดงนครพนม ไม่ได้หวั่นไหวและไม่ให้ราคา ยืนยันว่าแกนนำคนเสื้อแดงยังอยู่กันครบ ไม่แตกแยกอย่างที่นักการเมืองคนนั้นกล่าวอ้างฯ” นางปรานี แสนมิตร กล่าว


ด้าน นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม อาชีพทนายความ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนรู้สึกภาคภูมิใจและดีใจมาก สำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพราะเป็นโอกาสดีของพี่น้องประชาชน ที่รักประชาธิปไตย จะได้มีโอกาสเลือกผู้แทน เข้าไปทำงานเป็นกระบอกเสียง

หลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา เจอปัญหาทางการเมืองหลายด้าน ทั้งการปฏิวัติรัฐประหาร การสืบอำนาจของฝ่ายเผด็จการ มองแล้วชาวบ้านขาดที่พึ่ง ในฐานะที่ตนเคยทำงานการเมืองมาร่วมกับพี่ชาย คือ นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส. 7 สมัย และเคยเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ของพรรคไทยรักไทย หลังพรรคถูกยุบจึงถูกตัดสิทธิ์ ทางการเมือง

ทำให้ตนกับพี่ชายต้องต่อสู้ตามวิถีทางการเมืองมาตลอด แต่ไม่มีโอกาสเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองหลายด้าน แต่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ยังเสมอต้นเสนมอปลายลงพื้นที่ ดูแลติดตามปัญหาความเดือดร้อนชาวบ้านมาตลอด

โดยเฉพาะปัญหาเรื่องคดีความชาวบ้านยังขาดที่พึ่ง และหน่วยงานภาครัฐยังเข้าไม่ถึง ตนได้ลงพื้นที่ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนมากพอสมควร มาถึงวันนี้ตนพร้อมสำหรับการทำงาน ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะมีกระแสดรามา เสียงแตกบ้าง แต่ยืนยันมาถึงวันนี้ ตนมั่นใจว่าไม่มีเสียงประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงนครพนมแตกอย่างที่เป็นข่าว เขายังเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น รวมถึงพี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตย ยังต้องการพรรคเพื่อไทย มาดูแลแก้ปัญหาปากท้อง


“ส่วนกระแสเสียงแตก เป็นแค่การช่วงชิงของว่าที่ผู้สมัคร ที่คาดหวังอยากจะทำงานกับพรรคเพื่อไทย เพราะเสมือนต้นไม้ใหญ่ที่หลายคนอยากมาพักพิง สุดท้ายผมเชื่อมั่นว่าทุกคนจะมาทำงานร่วมกันอย่างแน่นอน เพราะเป้าหมายสำคัญคือ การสร้างแลนด์สไลด์ ล้มล้างเผด็จการของการเมืองในระบบที่มีการสืบอำนาจ และเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเนื้อหอมมานาน ทุกคนหมายปองอยากมาร่วมงาน รวมถึงมีประชาชนให้การสนับสนุนจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่เขต 4 เป็นถิ่นของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่มีอุดมการณ์ ต่างพร้อมใจสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งมาตลอด ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่าประชาชนในพื้นที่จะให้การสนับสนุนท่วมท้น เลือกทั้งคนทั้งพรรค ถึงแม้จะต้องสู้กับพรรคฝ่ายเผด็จการ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่พยายามสืบอำนาจ เชื่อว่าสุดท้ายประชาชนจะต้องตัดสินเลือกพรรคเพื่อไทย"


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ป้ายแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.นครพนมเขตเลือกตั้งที่ 4 ของนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.หนองฮี อ.ปลาปาก ต.พระซอง อ.นาแก และในตัวเมือง อ.นาแก ถูกผู้ไม่หวังดีแอบทำลายป้ายจนเสียหายจำนวนมาก ว่ากันว่าเป็นฝีมือลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero

เมื่อไม่นานมานี้ นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All

ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่

การผนึกกำลังของ ปตท. และ นูออโว พลัส ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการในโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยมีเจตจำนงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมในอนาคต
 

สจ.เตี้ย ลงพื้นที่ เขต 1 ยโสธร ร่วมงานประเพณี อย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากเนื้อฝากตัว กับประชาชน

วันที่ 7 มี.ค.66 นางสุภาพร สลับศรี (สจ.เตี้ย) อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต.1ยโสธร

 

พร้อมทีมงานลงพื้นที่ เขต1 ยโสธร เพื่อเยี่ยมยามถามข่าวพร้อมให้กำลังใจประชาชนในการประกอบอาชีพอยู่ตามบ้านเรือนและประชาชนที่ออกไปทำไร่ทำสวนตามท้องทุ่งนา

 

นอกจากนั้นยังร่วมงานประเพณีต่างๆ ในพื้นที่พร้อมฝากเนื้อฝากตัวกับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เขต 1 ยโสธรซึ่ งก็ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เขต 1 ยโสธร เป็นอย่างดีและกลายเป็นขวัญใจปชช.เขต1 ยโสธร

 

ขบวนแห่มาลัยจากที่ว่าการอำเภอมหาชนะชัยมายังวัดหอก่องระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 ที่ถนนหน้าอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร นายวิเชียร สมวงศ์ นายกองค์การบริหารจังหวัดยโสธรนำบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธรกว่า200 ชีวิตร่วมสืบสานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ประจำปี 2566

 

โดยได้จัดขบวนนางรำและคณะกลองยาวพร้อมทั้งพวงมาลัยข้าวตอกร่วมขบวนแห่มาลัยจากที่ว่าการอำเภอมหาชนะชัยมายังวัดหอก่องระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตรโดยตลอดเส้นทางทั้งขบวนฟ้อนรำของนางรำและเสียงของกลองยาวบรรเลงมาตลอดเส้นทางจนมาถึงวัดหอก่องแล้วก็ทำการแสดงทั้งคณะกลองยาวและนางรำสร้างสีสันและสร้างความสนุกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวงานแห่มาลัยข้าวตอกในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

 

 

ต้องไปเที่ยว! กาฬสินธุ์เปิดงานมหกรรมฟื้นใจเมือง สัมผัสวิถีชีวิตประเพณีดั้งเดิมที่ริมปาว

กาฬสินธุ์เปิดตลาดริมน้ำปาวฟื้นใจเมือง ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย 

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เปิดตลาดริมน้ำปาว ในงานมหกรรมฟื้นใจเมือง "ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย"  จัดเต็มกับกิจกรรมสะท้อนวัฒนธรรมของชาวกาฬสินธุ์ สัมผัสวิถีชีวิต ประเพณีดั้งเดิม  เพลิดเพลินไปกับแสงสีเสียงที่ริมปาว 

 

ที่บริเวณศาลเจ้าโสมพะมิตร สถานีดับเพลิงเทศบาลเก่า เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม  เป็นประธานเปิดงานมหกรรมฟื้นใจเมือง "ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย”  

 

โดยมีนายศุภศิษย์  กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ผศ.จุรีรัตน์ กอเจริญยศ นายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสุเทพ ชัยวัฒน์  นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ดร.กิตติ  สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพด.) นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้ประกอบการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมงานและออกบูธ แสดงผลงานด้านศิลปะ และจำหน่ายสินค้าเป็นจำนวนมาก

 

ทั้งนี้ ก่อนเปิดงาน  มีการจัดริ้วขบวนแห่เจ้าเมืองกาฬสินธุ์  ตามด้วยการเดินแฟชั่นโชว์ด้วยชุดผ้าไหมแพรวา และชุดออกแบบสร้างสรรค์โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ จากนั้นมีการเปิดตัวและเดินแบบโดย “ทีน่า ธนวรรณ วิกก์” มิสแกรนด์กาฬสินธุ์  2022 “ปรายฟ้า ทองแร่” มิสแกรนด์กาฬสินธุ์ 2023  และ “จินนี่ สุมินตรา โคกัต” รองอันดับ 2 มิสแกรนด์กาฬสินธุ์ 2023 

 

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม  กล่าวว่า 

 

งานมหกรรม ฟื้นใจเมือง “ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย”  ด้วย “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ บนฐานทุนทางวัฒนธรรมชุมชน” เป็นมหกรรมศิลปวัฒนธรรม โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยพัฒนาพื้นที่จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในการจัดกิจกรรม เพื่อยกระดับทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ และร่วมกันฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ให้เกิดเป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำหรับเป็นศูนย์รวมการค้าขายและพบปะของผู้คนในชุมชน ที่จะนำไปสู่การสร้างคุณค่าร่วมในพื้นที่ ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่สะท้อนวิถีชีวิต ประเพณี และทุนทางวัฒนธรรมของชาวกาฬสินธุ์เป็นอย่างดี

 

ด้านดร.กิตติ  สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพด.) กล่าวว่า การเปิดตลาดริมน้ำปาว  และจัดมหกรรม ฟื้นใจเมือง “ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย”  ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์  โดยมีหลายภาคส่วนให้การสนับสนุน โดยเฉพาะกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม  และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพด.) รวมทั้งส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ซึ่งถือเป็นการประสานใจ 3 ใจของทุกภาคส่วน คือ เข้าใจ ไว้ใจ และร่วมใจกันทำงาน เพื่อพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ ไปสู่เมืองแห่งความร่ำรวย คือร่ำรวยวัฒนธรรม ร่ำรวยน้ำใจ  ร่ำรวยสุขภาพและเป็นเมืองแห่งความสุข 

 

ขณะที่นายจารุวัฒน์  บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดกิจกรรม จะแบ่งออกเป็น 3 วัน ได้แก่กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์, การแสดงรำวงย้อนยุค, การฉายหนังกลางแปลง,  กิจกรรมลานวัฒนธรรมท้องถิ่น, การแสดงดนตรีโปงลาง และการกระตุ้นเศรษฐกิจวิถีชุมชนสินค้าท้องถิ่น ภูมิปัญญาชุมชน , พิธีบวงสรวงสักการะศาลเจ้าโสมพะมิตร, พิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา บูชาโชค, รำถวายเจ้าโสมพะมิตร 230 ปี เมืองกาฬสินธุ์, การแสดงฟ้อนรำละครวัฒนธรรมภูไท และแฟชั่นโชว์ผ้าพื้นเมือง และการแสดง Cover dance ถือได้ว่าเป็นมหกรรมที่ครบครันในทุกมิติ  ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน กิจกรรมความบันเทิง สินค้าทางภูมิปัญญาชุมชน และกิจกรรมการมีส่วนร่วมต่าง ๆ

ชวนร่วมทำบุญ ศรีสะเกษ จัดโครงการวัดเคลื่อนที่สัญจร ช่วยเหลือพระภิกษุที่อาพาธตามต่างวัด

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566  ที่เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ พระครูจารุธรรมพิมล หรือพระอาจารย์ราวี จารุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าโนนกุดหล่ม  ได้จัดโครงการวัดเคลื่อนที่ธรรมะสัญจรย้อนตามรอยบาทพระศาสดา  ในระหว่างวันที่  26  กุมภาพันธ์ – วันที่ 7 มีนาคม 2566 โดยได้นำคณะพระสงฆ์และแม่ชี จำนวน 99 รูป เดินเท้าตามรอยพระศาสดา เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ในใจของชาวพุทธอย่างมั่นคงถาวรไปตลอดจนจวบพุทธกาล  

.

และขบวนธรรมยาตราได้แวะพักและช่วยเหลือพระภิกษุสามเณรที่อาพาธตามวัดต่างๆ ได้พร้อมใจสมานฉันท์ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ   โดยมี ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  และคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  

.

ประกอบด้วยนายวชิรวิทย์ โรจน์ทองสุทธิ์  นายโกวิทย์  โกมณเฑียร   นางจินตะหรา  ศรีเมือง  นางเยาวลักษณ์  จัตวานนท์   นายสุวัฒน์ มหาสุวีระชัย  และร้านข้าวแกงปักษ์  ใด้ร่วมทำบุญสร้างพระมหาสถูปเจดีย์สาญจี สร้างเสารั้วระเบียงสาญจีต้นละ500บาท เพื่อสมทบทุนให้ทางวัดสร้างสาญจีวัดป่าโนนกุดหล่ม  เพื่อให้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ฟังธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม  ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ในจังหวัดศรีสะเกษต่อไป

 

พระครูจารุธรรมพิมล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนกุดหล่ม  กล่าวว่า โครงการวัดเคลื่อนที่ธรรมะสัญจรย้อนตามรอยบาทพระศาสดา  ได้เริ่มต้นเดินเท้าจากวัดป่าโนนกุดหล่มในวันที่ 26 กุมภาพันธ์  เดินธุดงค์ไปปฎิบัติธรรม จำวัดที่วัดลุมภู  วันที่  27 กุมภาพันธ์  ภัตกิจเช้าที่วัดผักขย่าใหญ่ ปฎิบัติธรรมจำวัดที่วัดบ้านเขิน  วันที่ 28 กุมภาพันธ์  ปฎิบัติธรรม จำวัดที่วัดป่าแสงอรุณ วันที่ 1 มีนาคม ปฎิบัติธรรม จำวัดที่ วัดตาเหมา วันที่ 2  มีนาคม ปฎิบัติธรรม จำวัดที่วัดสำโรงโคเฒ่า วันที่ 3 มีนาคม ปฎิบัติธรรม จำวัดที่วัดนิวาสสุวรรณาราม 

.

วันที่ 4 มีนาคม ปฎิบัติธรรม จำวัดที่ วัดประชารังสรรค์ วันที่ 5 มีนาคม ภัตกิจเช้าที่วัดประชารังสรรค์ ตำบลทุ่งสว่าง ปฎิบัติธรรม จำวัดที่เกาะกลางน้ำ ห้วยน้ำคำ  วันที่ 6 มีนาคม ออกเดินทางจากเกาะกลางน้ำไปวัดเจียงอีฯเพื่อกราบพระราชกิตติรังษี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 และอดีตเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม สิริอายุ 81 ปี 60 พรรษา ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่พระวิหารวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม จังหวัดศรีสะเกษ  จากนั้นภัตกิจที่โรงเรียนไกรภักดีและเดินเท้ากลับไปปฏิบัติธรรมในวันมาฆบูชาตลอดคืนที่วัดป่าโนนกุดหล่ม โดยมีนายเสถียร ทำมือ  ร่วมขับเพลงธรรมะ ด้วย

.

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า โครงการวัดเคลื่อนที่ธรรมะสัญจรย้อนตามรอยบาทพระศาสดา  ได้มีธรรมยาตราเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่ามาหลายวัน ท่ามกลางแสงแดดแผดเผาและมีพระภิกษุมีแผลที่เท้าซึ่งเกิดจากการเดินเหยียบหนามบนพื้นตามเส้นทางที่เดินธุดงค์ผ่านป่าดงหลายรูป  ญาติโยมเห็นพระผ่านมาเป็นร้อยรูปต่างรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ตนเองจึงได้บอกบุญเครือข่ายให้มาร่วมทำบุญ ถือเป็นโอกาสได้ทำบุญวันนักข่าว วันที่ 5 มีนาคม 2566 และวันมาฆบูชาวันที่ 6 มีนาคม ด้วย 

.

ซึ่งในนี้มีได้นำคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  และสื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษ  ไปร่วมทำบุญสร้างพระมหาสถูปเจดีย์สาญจี สร้างเสารั้วระเบียงสาญจี ต้นละ500บาท ซึ่งวัดป่าโนนกุดหล่มต้องใช้เสาประมาณ 500 ต้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระมหาสถูปเจดีย์สาญจี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 089-5828999 วัดป่าโนนกุดหล่ม หรือบริจาคเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์เลขที่ 405 -559519-3

.

#อีสานไทม์

" แพทองธาร " ขึ้นเวทีปราศรัย " บุรีรัมย์ "

5 มีนาคม 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ศูนย์ประสานงาน พรรคเพื่อไทยเขต 10 อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเวทีปราศรัยในจังหวัดที่ 2 ของการลงพื้นที่ในสุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวบุรีรัมย์

 

นางสาวแพทองธาร กล่าวทักทายพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่ให้การต้อนรับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี ว่าการมาบุรีรัมย์ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยต้องการมาประกาศนโยบายเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากลำบาก เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นถึงปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

 

โดยในจังหวัดบุรีรัมย์นั้น มีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ที่ได้ผลตอบแทนเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกลับแรงที่ลงทุนไป พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอนโยบาย ‘3 ดี’ ได้แก่ ดินดี น้ำดี  และเมล็ดพันธุ์ดี โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำการเกษตรเพื่อทำให้น้ำและดินเหมาะสมกับการเพาะปลูก และหากมีเมล็ดพันธุ์ดี จะช่วยทุ่นแรงให้เกษตรกร ในการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีในการเพาะปลูก ขายได้ราคาดี ราคาสินค้าเกษตรต้องขึ้นยกแพง

 

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟของดีประจำบุรีรัมย์ ที่จะต้องเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พร้อมเสนอการพักชำระหนี้ 3 ปีให้แก่เกษตรกร และเปิดการพูดคุยการค้าเสรีบริเวณชายแดน เพิ่มแหล่งรายได้ให้พี่น้องประชาชน

 

ด้านปัญหาค่าแรง พรรคเพื่อไทยประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันไปนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง เพราะเพื่อไทยจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทั้งระบบ นายจ้างจะมีกำลังจ่ายค่าแรงแน่นอน ลูกจ้างจะต้องรวยไปพร้อมกับนายจ้าง ลดความเหลื่อมล้ำ แรงงานที่ทำงานไกลบ้านต้องหมดกังวลเรื่องรายได้

 

ในปัญหายาเสพติดที่หาได้ง่ายในปัจจุบันต้องกวาดล้างเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานโดย พรรคเพื่อไทยขอเสนอ 

 

1. ป.ปราบ ใครขายยาเสพติด เจอที่ไหนต้องถูกจับทันที

2. ป.เปิด เปิดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแหล่งผลิต และทำลายแหล่งผลิต

3. ป.เปลี่ยน เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย เพื่อรักษาให้ผู้ติดยาเสพติดให้กลับคืนสู่สังคม

 

“เรากำหนดอนาคตของตัวเองได้ผ่านการเลือกตั้ง ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง เพราะพรรคเพื่อไทยพร้อมจะเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนอนาคตให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ขอฝากพี่น้องชาวบุรีรัมย์ให้ได้เป็นส่วนหนึ่งให้พรรคเพื่อไทย แสนสไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค” แพทองธาร กล่าว

ค้นพบ " ภาพเขียนสีโบราณ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ "

เฟซบุ๊ก "กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา" ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดี นายช่างศิลปกรรม จากกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เเละเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สังกัดเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันสำรวจ "ภาพเขียนสีพบใหม่" ณ ถ้ำหินเพิง เทือกเขาโซ่ โดยผลจากการสำรวจพบภาพเขียนสีรูปบุคคล สัตว์ เเละลายเส้นเรขาคณิตกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วเพิงหิน ซึ่งกลุ่มโบราณคดีของเรา จะนำเสนอองค์ความรู้ผลการสำรวจในโอกาสต่อไป"

 

นายชัยพร ทับทิมทอง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ระบุผ่านทางเฟสบุ๊ก "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ว่า สืบเนื่องจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ในการตรวจสอบแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า บริเวณเพิงถ้ำ ชุดลาดตระเวนตรวจพบร่องรอยภาพเขียนสีบริเวณผนังถ้ำ และรายงานให้หน่วยงานทราบต่อมาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง จึงได้ประสานสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมาเข้าตรวจสอบภาพเขียนสีดังกล่าว 

 

และเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา นักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดี นายช่างศิลปกรรม จากกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เเละเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง ร่วมเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันสำรวจ "ภาพเขียนสีพบใหม่" ณ ถ้ำหินเพิง เทือกเขาโซ่ ผลจากการสำรวจพบภาพเขียนสีรูปบุคคล สัตว์ เเละลายเส้นเรขาคณิตกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วเพิงหิน

 

ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมาเคยพบภาพเขียนสี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณเพิงหิน เเละเพิงผา มาเเล้ว 3 แห่งในเขตอำเภอสีคิ้วเเละอำเภอสูงเนิน ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว 2 แห่ง คือ เพิงหินเขาจันทน์งาม และเพิงหินซับอนันต์ และที่อำเภอสูงเนิน 1 แห่ง คือบริเวณเพิงหินน้ำตกวะภูแก้ว จุดที่ 1 เเละ 2

 

ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการศึกษาร่องรอยภาพเขียนสี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เเละยังเป็นอีกของขวัญพิเศษ ในโอกาสเฉลิมฉลอง 555 ปี เมืองนครราชสีมา ของเราอีกด้วย 

 

ที่มา : กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา / ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะได้ลงพบปะกลุ่มแกนนำ และกล่าวปราศรัยเพื่อชี้แจงนโยบายของพรรคฯ ในพื้นที่ ต.ดอนแรด อ.รัตนบุรี โดยมีประชาชนเข้ารับฟังทั้ง 2 จุดจำนวนมาก

นางชนมณี กล่าวแนะนำตัว พร้อมระบุที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่ช่วงโรคโควิดระบาดหนัก จนมาถึงพี่น้องประสบภัยพิบัติน้ำท่วม

 

โดยประสานหน่วยงานราชการลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และหลังจากน้ำได้ลดลงอยู่ในสภาวะปกติตนก็ได้ทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วย ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ราคาข้าวตกต่ำ ปัญหาหนี้สินในระบบและนอกระบบ ปัญหาด้านสุขภาพและสาธารณสุข

 

"จึงประกาศขอเสนอตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย พร้อมนำเสนอนโยบายดีๆ ของพรรคฯ ซึ่งได้แก่ นโยบายเกษตรร่ำรวย รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน โดยประกันราคา ข้าวขาว 12,000 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท/ตัน มันสำปะหลัง กิโลกรัมละ 4 บาท และน้ำยางสด 62 บาท/กก., นโยบายพักชำระหนี้ 3 ปี หยุดจ่ายเงินต้นและปลอดดอกเบี้ย คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท, นโยบายลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ ฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท/เดือน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท/60 งวด และนโยบายด้านสาธารณสุข

 

โดยสร้างศูนย์ฟอกไตทุกอำเภอ/ศูนย์รักษามะเร็งทุกจังหวัด เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาท/เดือน" แม่ใหญ่จิ๋วกล่าว

 

นางชนมณี กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนสนับสนุนในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพื่อขออาสาเป็นปากเป็นเสียงทำงานเพื่อประชาชน และเป็นผู้แทนของพี่น้อง ลุงป้า หน้าอา ไปผลักดันงบประมาณต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นให้ถึงมือพี่น้องประชาชนให้สำเร็จ และตนขอปฏิญาณว่าจะขออยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณพ่อ คุณแม่ พี่ น้อง ลุงป้า น้า อา นำปัญหาของพี่น้องเข้าสู่สภาเพื่อได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

 

 


© Copyright 2022, All rights reserved. Esan Time Thailand
Take Me Top