นายกฯเดินหน้าโหมโรงใกล้เลือกตั้ง

‘บิ๊กตู่’ มอบรางวัลองค์กรเป็นเลิศบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง กำชับทุกส่วนราชการใช้เงินภาษีทุกสตางค์คุ้มค่า-โปร่งใส-ตรวจสอบได้ ลั่นไม่อยากทิ้งภาระไว้ให้ใคร ‘ยัน’ไม่ต้องการทำเพื่อการเมือง แต่ทำเพื่อประเทศ-ปชช. ย้ำรับฟังจากทุกคนไม่ใช่ใช้อำนาจชี้นิ้วสั่ง

เมื่อเวลา 09:30 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม​ เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 44 หน่วยงาน และ 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 103 รางวัล

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าสร้างความภาคภูมิใจให้แก่หน่วยงาน ซึ่งกรมบัญชีกลางมีความสำคัญมากในการผลักดันหน่วยงานของรัฐปฏิบัติภารกิจไปแนวทางเดียวกัน เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนการบริหารจัดการการเงินการคลังของภาครัฐในภาพรวมให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาลและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนตลอดมา โดยยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต ความถูกต้องในกฎกติกาอย่างเคร่งครัด

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนทั่วไปย่อมคาดหวังให้ส่วนราชการปฏิบัติด้วยเต็มกำลังความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต ใช้งบประมาณจากเงินภาษีทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตนในฐานะนายกฯ ผู้นำฝ่ายบริหาร นอกจากคาดหวังให้ทุกส่วนราชการและข้าราชการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน สมความคาดหวังของประชาชนคนไทยทั้งประเทศแล้ว ตนยังคาดหวังให้การบริหารการเงินการคลังของภาครัฐบูรณาการเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ลดความผิดพลาด ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ให้สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ขอให้ทุกหน่วยงานมุ่งมั่นตั้งใจในการรักษาระดับมาตรฐานให้มีประสิทธิภาพสูงต่อไป เพื่อนำไปสู่การยกระดับการทำงานของภาครัฐในภาพรวมต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า ก่อนจบตนขอพูดส่วนตัวถึงบรรยากาศวันนี้กับเมื่อวานคนละบรรยากาศ ซึ่งเมื่อวาน (30 พ.ย.) ตนลงไปเยี่ยมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้พบกับประชาชนเกษตรกรชาวไร่ชาวนาและท้องถิ่น ถึงระดับกำนันผู้ใหญ่บ้านและน่วยงานต่างๆ ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการปรับโครงสร้างการเกษตรของเราให้ดีขึ้นให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงทั้งขั้นตอนตลอดจนห่วงโซ่

"เมื่อวานได้ไปเยี่ยมชมในพื้นที่จริงเห็นความก้าวหน้า เป็นสิ่งที่เราและผมต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตรงนี้ ในฐานะที่ผมบริหารในภาพรวมตรงนี้คือหน่วยงานข้าราชการทั้งหมดในสังกัดของรัฐบาล ทุกกระทรวง ทุกกรมและทุกหน่วยงานเทียบเท่ามากมายนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เข้ามารับรางวัล ผมอยากมอบรางวัลให้ครบทุกหน่วยงานด้วยซ้ำไปกี่ร้อยหน่วยงานก็พร้อมยินดีจะมอบ ขอทุกคนเพียงช่วยกันทำ ถ้าเทียบสัดส่วนกันแล้วในส่วนที่รับรางวัลไม่ว่าจะดีเยี่ยม ดีเลิศ ยังเป็นสัดส่วนที่เป็นส่วนหนึ่งแต่ผมอยากมอบให้กับทุกหน่วย" พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า วันนี้เราได้รับการชื่นชมหลายอย่างจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการบริหารการเงินการคลังของเราได้รับความชื่นชมและความเชื่อมั่นมากมาย ซึ่งยิ่งต้องทำตัวเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้ดีกว่านี้ ไม่มีอะไรดีที่สุดเพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สถานการณ์โลกก็เปลี่ยน กฎระเบียบของโลกใบนี้ซึ่งเป็นโลกใบเดิมแต่เป็นกฎระเบียบโลกใหม่ที่มีการจัดระเบียบมากมาย เราจำเป็นต้องนำทุกอย่างมาวิเคราะห์พิจารณาว่าจะพัฒนาหน่วยงานของเราอย่างไรให้ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะล้วนมีผลด้วยกันทั้งสิ้น

"ขอให้ทุกคนรักษาความดีนี้ไว้ ไม่มีใครรู้เท่ากับเรารู้ตัวเองว่าเราทำงานดีหรือไม่ดีอย่างไร สิ่งต่างๆจึงเป็นสิ่งที่เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนโดยรวมและต้องสร้างความรักของประเทศให้ทุกคนได้มั่นใจว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เขาให้ความเชื่อมั่น"นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า วันนี้หลายประเทศชื่นชมประเทศไทยในเวลานี้ หลายอย่างเราปรับแก้กฎระเบียบกฎหมายหลายตัว แต่อาจยังไม่เพียงพอจึงต้องฝากทุกคนไว้ด้วย ขอบคุณทุกคนรับนโยบายไปสู่การปฏิบัติปรับปัญหาต่างๆที่มีอยู่ทั้งอดีต ปัจจุบัน เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปให้เร็วที่สุด สิ่งที่นายกฯ มอบนโยบายไปแล้วบางครั้งก็ศึกษาจากภายนอก ศึกษาด้วยตัวเองบ้าง รับฟังคนอื่นบ้าง จากเอกสารตำราบ้าง สุดท้ายรับฟังจากคนในประเทศของเราเองไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม อย่างไรก็ตามเราใช้จ่ายงบประมาณจากภาษีประชาชนต้องใช้ทุกอย่างให้คุ้มค่าและปรับทุกอย่างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในโลกใบนี้

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า นอกจากนี้ในเวทีเอเปคที่ผ่านมาอยากเห็นว่าหลายประเทศให้ความไว้วางใจประเทศไทย ไม่ใช่เพราะตนแต่เพราะพวกเราทุกคนจนได้รับการยอมรับในระดับที่น่าพอใ จตนต้องการให้มากกว่านี้อีก หลายอย่างต้องปรับเปลี่ยนปรับแก้ ทำอย่างไรก็ได้ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ให้ เราจะนั่งนิ่งดูดายไม่ได้แล้ว คิดแบบเดิมกฎหมายเดิมๆเดินไม่ได้เราต้องรับฟังทั้งสองทาง และจำเป็นต้องรับฟังจากข้างล่างขึ้นมาข้างบน ข้างบนลงมาข้างล่าง ฝั่งซ้ายขวาอาจจะปวดหัวหน่อย แต่ท้ายที่สุดจะได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนทุกทิศทุกทาง นั่นคือความภาคภูมิใจของทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์สถานะการเงินการคลังของเรายังได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ที่ชื่นชมว่าประเทศไทยมีประสิทธิภาพมีการบริหารจัดการการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพรองรับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีกว่าหลายประเทศขอให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจ และหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆดีไปเรื่อยๆ เป็นหน้าที่ของพวกเรา หน้าที่ของตนและหน้าที่ของทุกส่วนราชการ ตนไม่ได้ต้องการทำอะไรเพื่อการเมือง แต่ต้องการทำเพื่อประเทศของเรา ประชาชนของเรา ถ้าไม่ทำวันนี้ก็ไม่รู้จะทำเมื่อไหร่เหมือนกัน ต้องทำให้ดีขึ้นทุกวัน คิดทุกวัน ทำทุกวันมันต้องดีขึ้น อยู่ที่พวกเราทุกคนจะร่วมมือกันได้มากน้อยเพียงใด

"วันนี้ผมก็คาดหวังว่าในระยะเวลาอันใกล้วันหน้าก็มีการเลือกตั้งมีอะไรต่างๆ ผมไม่อยากจะทิ้งภาระตรงนี้ไว้ให้ใครในโอกาสหน้าทั้งสิ้น และไม่อยากให้ทุกอย่างกลับมาสู่ที่เดิมคือก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหาตรงนี้มาถึงเวลานี้ได้ ขอให้ทุกคนได้ภูมิใจว่าเราทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสมาเราทำเพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อคนอื่น นั่นคือสิ่งที่เรียกว่ากุศล ทำบุญทำกับวัดกับพระโน่น ถ้าทำกุศลทำให้กับคน นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเสียสละต้องไม่เหนื่อยที่จะคิด ไม่เหนื่อยที่จะทำ และไม่มุ่งหวังผลประโยชน์จากการทำงานของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะบอกพวกเรา ผมเชื่อมั่นทุกท่านพยายามทำอย่างเต็มที่แล้วและมันต้องทำได้ดีกว่านี้ หวังว่าวันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้ อาทิตย์หน้าต้องดีกว่าอาทิตย์นี้ คิดแบบนี้ทุกวัน แล้วมันจะสำเร็จขอให้ทุกคนตั้งใจให้ดีที่สุดผมเชื่อมั่นทุกท่าน" พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า ตลอดที่ผ่านมาหลายปีตนฟังทุกคน ไม่ได้ใช้อำนาจสั่งให้ใครไปทำอย่างนั้นอย่างนี้แต่ต้องถามว่าทำได้หรือไม่ บางอย่างอาจคิดนอกกรอบบ้างเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคิดแบบตน ต้องคิดนอกกรอบบ้างแล้วนำมาใส่กรอบ ระเบียบ กฎหมายต่างๆมันก็ทำได้ถ้าทำแบบเดิมไปไม่ได้โลกเปลี่ยนไปเยอะแล้ว

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "พูดเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย คิดแล้วก็พูด เพราะอยากให้รู้ว่านายกฯ คิดอะไรอยู่อยากให้ทุกคนพยายามคิดดู ไม่ใช่ผมเก่งกว่าท่าน ท่านเก่งกว่าผมอยู่แล้วเพราะรู้งานในหน้าที่ของท่าน แต่ผมมีหน้าที่ทำให้ทุกอย่างโปร่งใสเป็นธรรม สุจริต ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ หลักการของผมมีเพียงแค่นั้นและเห็นผลงานปรากฏเป็นรูปประธรรม หลายปีที่ผ่านมาหลายอย่างดีขึ้นหลายอย่างอยู่ที่เดิม หรือหลายอย่างแย่ลง เราต้องทำให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมกันให้ได้ บางอย่างยากบางอย่างง่าย แต่อะไรที่มีผลความเสียหายต่อประเทศต่อแผ่นดินต้องเร่งแก้ไขโดยทันที"

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า ทั้งนี้ถ้าเราทำให้ดีทำให้รัดกุมก็จะไม่เกิดปัญหาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนห่วงข้าราชการทุกคน เพราะเคยเป็นข้าราชการมาก่อนดังนั้นทุกคนต้องปลอดภัยในการทำงานนั่นคือสิ่งที่ตนห่วงตนไม่ได้ไปนั่งคุมอะไรทุกคนทุกวันอยู่แล้ว แต่ทุกคนต้องควบคุมตัวเองให้ได้ พร้อมบูรณาการการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต