'อนุทิน' ลุ้น!! ฝ่ากระแส 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แบ่งเค้ก ส.ส.กทม. หลังดึง 'พุทธิพงษ์' นั่งแท่นว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรค

นาทีนี้แลดู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมั่นใจมากขึ้น สำหรับความหวังในการปักธงสีน้ำเงิน ในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร หลังจากมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทยอยลาออกมากรอกใบสมัครเข้าพรรคเพิ่มขึ้น

ผู้อยู่เบื้องหลังในการเจรจาดึงตัว ส.ส.เหล่านั้น คือ 'เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์' อดีต รมว.ดีอีเอส ว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรคสีน้ำเงิน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2565 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านั้น ก็มี 3 ส.ส.กทม. อย่าง จักรพันธ์ พรนิมิตร, กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว รวมๆ แล้ว ส.ส.กทม.พรรคลุงป้อม ที่ย้ายมาพรรคเสี่ยหนู 5 คน ส่วนจากพรรคเพื่อไทย มี 1 คนคือ ส.ส.อ๊อด-ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ (เขตห้วยขวาง-ดินแดง)

จะว่าไป พรรคภูมิใจไทย ก็มี ส.ส.กทม.อยู่แล้ว 2 คนคือ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย (เขตสวนหลวง) และโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี (เขตจอมทอง) ทั้งคู่เป็น ส.ส.สมัยแรก สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ภายหลัง มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจึงเลือกมาอยู่พรรค ภท. ไม่ไปพรรคก้าวไกล

อย่างไรซะ ภูมิใจไทยของ 'อนุทิน' ก็มีภาพลักษณ์เป็นพรรคบ้านใหญ่ พรรคทุนท้องถิ่น ซึ่งความล้มเหลวในสนาม กทม. เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 ก็ให้คำตอบชัดว่า พรรคเสี่ยหนู ไม่ถูกจริตคนเมืองหลวง

แต่เมื่อมีขุมกำลังจากพรรค พปชร.ย้ายเข้ามาอยู่พรรค ภท. เสี่ยหนูจึงแอบหวังว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะได้ ส.ส.กทม.

เพราะสมัยที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. 12 ที่นั่ง หลัง 2 ส.ส.อย่าง ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ (เขตบางซื่อ) และสิระ เจนจาคะ (เขตหลักสี่-จตุจักร) เจออุบัติเหตุการเมืองต้องพ้น ส.ส. จึงเหลืออยู่ 10 คน โดย ส.ส.ทั้งหมดนี้ จะไม่มีใครอยู่พรรค พปชร.อีกต่อไป

อย่างตอนนี้ 5 คน ประกอบด้วย พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (เขตปทุมวัน-บางรัก), กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา (เขตคลองเตย), ภาดาท์ วรกานนท์ (เขตพญาไท), กษิดิ์เดช ชุติมันต์ (เขตลาดพร้าว) และจักรพันธ์ พรนิมิตร (เขตบางพลัด) ที่เลือกไปพรรคภูมิใจไทย

มีข่าวว่า ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ (เขตบางกะปิ) และ ประสิทธิ์ มะหะหมัด (เขตสะพานสูง) จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ

ศิริพงษ์ รัสมี (เขตหนองจอก) เตรียมย้ายไปสังกัดพรรค ปชป. และกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ (เขตพระนคร) ไปพรรคเพื่อไทย ส่วน ชาญวิทย์ วิภูศิริ (เขตมีนบุรี) มีข่าวว่าจะเว้นวรรค

แน่นอนว่า สังเวียนเลือกตั้งกรุงเทพฯ เป็นสนามที่คาดเดาผลได้ยากเสมอ เพราะคนกรุงเทพฯ ไม่มีความจงรักภักดีต่อพรรคใดพรรคหนึ่งชัดเจน

ดังนั้น กระแส จึงเป็นปัจจัยหลักในชัยชนะ หากช่วงเวลานั้น พรรคใดสร้างกระแสได้ ก็ชนะได้ในทุกเขต โดยผู้เลือกไม่สนใจว่า จะเป็นอดีต ส.ส. หรือคนหน้าใหม่

ตัวอย่างการเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ในอดีต ปี 2522 พรรคประชากรไทย คว้าชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ อีก 2 สมัยถัดมา คน กทม.ก็ทิ้งพรรคประชากรไทย

เช่นเดียวกับปี 2535 พรรคพลังธรรม สร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ แต่ปี 2539 คนเมืองหลวงก็หันหลังให้พรรคพลังธรรม

ปี 2562 พรรค พปชร.ปั่นกระแสความสงบจบที่ลุงตู่ จนพลิกเกมเอาชนะพรรค ปชป.ไปได้ ที่เต็มไปด้วยอดีต ส.ส.หลายสมัย แต่วันนี้ ส.ส.กทม. ทิ้งลุงป้อมไปอยู่พรรคอื่นหมดเลย

การเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมา ภูมิใจไทย ได้มอบให้ ศุภมาศ อิศรภักดี เป็นผู้ดูแลสนาม กทม. และได้มีการคัดเลือกอดีต ส.ก.ที่มีชื่อเสียงอย่าง ปราณี เชื้อเกตุ เขตบางเขน, พงศ์ไพศาล มะลูลีม เขตมีนบุรี ,สายรุ้ง ปิ่นโมรา เขตธนบุรี และไสว โชติกะสุภา เขตราษฎร์บูรณะ มาลงสนาม ผลปรากฏว่า พ่ายแพ้ยับเยิน

ดังนั้น สูตรปั้น ส.ส.เสาเข็ม ที่ย้ายมาจากหลายพรรค จะต้านกระแสพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่ เป็นเรื่องต้องรอการพิสูจน์

ที่มา: https://www.komchadluek.net/scoop/539313