เตรียมพร้อมรับมือ!! ‘อนุทิน’ นัดถก ’คมนาคม-ท่องเที่ยว’ วางมาตรการรับจีนเปิดประเทศ

‘อนุทิน’ นัด ‘คมนาคม-ท่องเที่ยว’ หารือมาตรการด้านสาธารณสุขไทย รองรับนักท่องเที่ยวจีน ด้าน ‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง บวท.-กพท. สรุปตัวเลขไฟลท์ของสายการบินจีน เสนอแลนด์ดิ้งเข้าไทย

(28 ธ.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีประเทศจีนจะเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค.66 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังไทยจำนวนมากนั้น เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเชิญรมว.คมนาคมและรมว.ท่องเที่ยว ประชุมในวันที่ 5 ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดมาตรการสาธารณสุขในการรองรับการเดินทาง

“ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขไทยมีศักยภาพสูง พร้อมที่จะรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจีนได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานงานไปยังสถานทูตจีนว่าข้อเท็จจริงในการเปิดประเทศเป็นอย่างไรและจะมีมาตรการอะไรบ้าง เพื่อที่ไทยจะได้สามารถกำหนดมาตรการสาธารณสุขและกำหนดวิธีการปฏิบัติให้สอดคล้องต่อไป” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เพื่อให้การบริหารจัดการรองรับการเดินทางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้มอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือน (กทพ.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (จำกัด) หรือ บวท.ไปสรุปตัวเลขเที่ยวบินที่จากจีนที่จะเข้ามายังประเทศไทยว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงยังมีเวลาเตรียมการประมาณอาทิตย์กว่า ๆ ซึ่งเห็นบทเรียนจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว ประกอบกับไทยบทเรียนในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างดี มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการได้อย่างแน่นอน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมินั้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่าบริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ค่อนข้างดีไม่มีปัญหา แต่ในเรื่องการขนถ่ายกระเป๋ายังมีความล่าช้าอยู่ ซึ่งตนได้แจ้งให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ไปทำการบ้านแก้ปัญหาอยู่อย่ามาทำเป็นผักชีโรยหน้าต้องเอาความจริงมาบอกว่าความสามารถของบริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น (Ground Handling) คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS) ทำได้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือที่ยังเป็นปัญหาอยู่ให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเชิญแต่ละสายการบินมาคุยว่าจะปรับทัพแก้ปัญหาในเวลานี้อย่างไร หรือ จำเป็นต้องหาผู้ประกอบการอื่นมาช่วยเติมเต็มให้การให้บริการมีเพิ่มประสิทธิภาพมากที่สุด