Tuesday, 14 May 2024
NEWSFEED

สุดฮือฮา!! พบรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อแห่งใหม่ของประเทศไทย ในพื้นที่วนอุทยานภูแฝก ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

วันที่ 27 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 พร้อมด้วยนายดำรงศักดิ์ ชูศรีทอง หัวหน้าวนอุทยานภูแฝก เข้าตรวจสอบบริเวณบ๋าชาด ในพื้นที่วนอุทยานภูแฝก ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากมีการแจ้งว่าพบร่องรอยที่คาดว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ จากนายทองดี สุปิรัยทร ชาวบ้านน้ำคำ หมู่ 6 ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

โดยเบื้องต้น จากการสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวพบว่า ลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่ พบรอยเท้าไดโนเสาร์มากกว่า 10 รอย กระจายตัวอยู่บนลานหินทราย หมวดหินพระวิหาร ซึ่งมีอายุประมาณ 140 ล้านปี โดยรอยเท้าไดโนเสาร์ที่พบนั้น มีความยาวประมาณ 21-30 เซนติเมตร และกว้าง 17-31 เซนติเมตร คาดว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 เมตร และยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งถือเป็นการค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์แห่งใหม่อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย

‘อนุทิน’ ไม่ประมาท เฝ้าระวังตามแนวทางวิชาการ แม้โควิดในประเทศลด สวนทาง นทท.เข้าไทยเพิ่ม

สธ.เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 เผยเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของปี 66 ผู้ติดเชื้อใหม่ยังลดลง สวนทางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้าไทยเพิ่มต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีเชิญชวนประชาชนเข้ารับวัคซีน ด้านรองนายกฯ อนุทิน ย้ำแผนเฝ้าระวังตามข้อแนะนำด้านวิชาการ

(27 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดแนวทางรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายหลังทางการประเทศจีนประกาศอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ได้มีการติดตามโควิด19 อย่างใกล้ชิด เพื่อมีข้อมูลนำไปสู่การบริหารจัดการที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์

กรมควบคุมโรคได้รายงานข้อมูลล่าสุด ระบุให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 รายใหม่ ในประเทศยังคงปรับตัวลดลง สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึงข้อมูลนักท่องเที่ยวล่าสุดว่าตั้งแต่วันที่ 1-21 ม.ค. 66 มีต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 1,342,365 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากรัสเซีย (143,580คน) มาเลเซีย (138,737คน) เกาหลีใต้ (111,522คน) อินเดีย (68,609คน) และ ลาว (56,517คน) ตามลำดับ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 15-21 ม.ค. 66 ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่3 ของปี 66 ในการายงานสถานการณ์โควิด19 พบว่า มีรายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 627 ราย เฉลี่ยวันละ 90 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า (8-14ม.ค.) ที่มีผู้ป่วยใหม่ 969 คน เฉลี่ยวันละ 138 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตตลอดสัปดาห์อยู่ที่ 44 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่เสียชีวิต 65 ราย

สวนสัตว์ขอนแก่น เชิญชวนประกวดตั้งชื่อ “ลูกสิงโต” คู่แรกของทางสวนสัตว์ขอนแก่น

(ขอนแก่น) เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ที่สวนสัตว์ขอนแก่น ได้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดการตั้งชื่อ 'ลูกสิงโต' คู่แรก ที่ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ลูกสิงโต โดยลูกสิงโตคู่แรกที่ได้ถือกำเนิดลืมตาดูโลกในครั้งนี้ ซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่าง สิงโตเพศผู้ชื่อว่า 'สิงหา' และสิงโตเพศเมียชื่อว่า 'กันยา' ที่ย้ายมาจากสวนสัตว์อุบลราชธานี ก่อนที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของสวนสัตว์ขอนแก่น

ซึ่งหลังจากที่ 'กันยา' สิงโตเพศเมียได้คลอดลูกออกมาในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ทางเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทางสวนสัตว์ขอนแก่น ได้เข้าไปดูแลพร้อมตรวจสุขภาพร่างกายและคอยสังเกตุพฤติกรรมของ 'กันยา' สิงโตเพศเมีย และลูก ๆ ของเขาทั้ง 2 ตัว อย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เพื่อให้พวกเขานั้นไม่เกิดความเครียดสะสม อีกทั้งยังทำให้พวกเขาได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย

นอกจากนี้ นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น ได้กล่าวว่า ในการถือกำเนิดของลูกสิงโตคู่แรกของทางสวนสัตว์ขอนแก่นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งและเปรียบเสมือนของขวัญต้อนรับในช่วงเทศกาลแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ที่กำลังจะมานี้ ให้กับทางสวนสัตว์ขอนแก่น เพราะสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความประสบความสำเร็จในด้านการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ที่เกิดใหม่, ด้านการส่งเสริมพฤติกรรมสัตว์, ด้านการเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่า และรวมไปถึงในด้านการออกแบบระบบนิเวศ ภายในส่วนจัดแสดงสิงโตได้อย่างใกล้เคียงตามถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกเขาตามธรรมชาติ โดยการให้กำเนิดลูกสิงโตของกันยา สิงโตเพศเมีย ในครั้งนี้ ได้ให้กำเนิดลูกสิงโตเพศผู้ 1 ตัว และเพศเมีย 1 ตัว

โดยนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปสามารถรับชมความน่ารักของลูกสิงโต ผ่านจอทีวี ระบบกล้อง CCTV หน้าส่วนจัดแสดงสิงโต ณ อาณาจักรสัตว์นักล่า สวนสัตว์ขอนแก่น อีกทั้งยังสามารถเข้าร่วมการประกวดตั้งชื่อลูกสิงโต ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2566 ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ และประกาศผลการตั้งชื่อลูกสิงโตคู่แรกของทางสวนสัตว์ขอนแก่น ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งรายละเอียดและกติกาในการประกวดตั้งชื่อลูกสิงโต สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เพจเฟสบุ๊ค : สวนสัตว์ขอนแก่น Khonkaen Zoo

นานาชาติลงพื้นที่หนุนป่าภูเขียว ทุ่งกระมัง จ.ชัยภูมิ เตรียมขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งอาเซียน!

เมื่อระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคณะตัวแทนผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติจากศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ประกอบด้วย Ms. รัศมี ศิระวงศ์, Mr. โรเบิร์ต มาสเตอร์, นายทวี หนูทอง และสมาชิกประเทศกลุ่มอาเซียน และ นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (รักษาการอธิบดีฯ) นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เดินทางร่วมกันลงพื้นที่เชิงลึกติดต่อกันในช่วง 3 วันในระหว่าง 23-25 ม.ค.2566 เพื่อนำเสนอพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นพื้นที่อุทยานมรดกโลกแห่งอาเซียน

โดยมี นายอร่าม ทัพหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) ได้นำเสนอข้อมูลแนวทางการยื่นขึ้นทะเบียนให้พื้นที่ป่าภูเขียวและทุ่งกะมัง ให้เป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียนในครั้งนี้

สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 มี.ค.65 เห็นชอบให้ประเทศไทยโดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน

ซึ่งครั้งนี้ทางคณะกรรมการตัดสินจากศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ จึงได้นำคณะนานาชาติลงพื้นที่ตรวจสอบประเมิน เพื่อดำเนินการประกาศให้มีการขึ้นทะเบียนให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (มีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์รวม 975,000ไร่) ได้เป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2566 นี้ ก็จะมีการประกาศการขึ้นทะเบียนตามมาอย่างเป็นทางการต่อไปได้

ซึ่งศักยภาพของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) ที่มีความเหมาะสมจะมีการประกาศให้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียนครั้งนี้ ด้าน Mr. โรเบิร์ต มาสเตอร์ ตัวแทนคณะผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ทุกครั้งที่จะมีการดำเนินการประกาศขึ้นทะเบียนให้พื้นที่ต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน มักจะมีคนตั้งคำถามว่าเมื่อเป็นมรดกแห่งอาเซียนแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร และถ้าพื้นที่ของประเทศไทยถ้าเป็นมรดกแห่งอาเซียนแล้วจะไม่ใช่ของไทยอะไรประมาณนี้นั้น ซึ่งยืนยันว่าพื้นที่ของประเทศไทยก็ยังเป็นของคนไทยอยู่เหมือนเดิม

จังหวัดเลย รณรงค์ลดการเผาอ้อย แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เน้นใช้เครื่องจักรกล มุ่งพัฒนาเกษตรชาวไร่

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่แปลงต้นแบบเกษตรแปลงใหญ่ บ้านซำพร้าว ตำบลบ้านเพิ่ม อำเภอผาขาว จังหวัดเลย นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย มอบหมายให้ นายกิตติคุณ บุตรคุณ ปลัดจังหวัดเลย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างยั่งยืน

โดยมี พ.ต.ต. เดชาติศร บุญเนตร หน.ฝผ.กมช.กอ.รมน.จังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น สมาคมชาวไร่อ้อยที่ราบสูงจังหวัดเลย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย และเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมการรณรงค์แก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างยั่งยืน โดยจัดการไร่อ้อยสมัยใหม่มุ่งเน้นเครื่องจักรกลเกษตรและเทคโนโลยี

กาฬสินธุ์ เตรียมจัดมหกรรมโปงลาง แพรวา และงานกาชาดยิ่งใหญ่ พร้อมส่งเสริมดนตรีพื้นบ้าน สร้างรายได้ กระตุ้นการท่องเที่ยว

(กาฬสินธุ์) เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 เวลา 15.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุรีรัตน์ กอเจริญยศ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์, นายขัตติยา ชัยมณี วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์, นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์, นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์, นายมีชัย นาใจดี ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์, พ.ต.อ.โกวิทย์ เจริญวัฒนศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์, นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน 'มหกรรมโปงลาง แพรวา และงานกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์' ประจำปี 2566

ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังใหม่) ศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะการแสดงดนตรีพื้นบ้านโปงลาง และผ้าแพรวา ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่น และทรงคุณค่าของจังหวัด อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ดนตรีโปงลาง และผ้าแพรวาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบวิถีวัฒนธรรม หรือผ้าไหมแพรวา นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างรายได้และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์

เครนล้มทับศาลาเสียหาย 2 ล้านบาท!! ชาวบ้านเชื่อลบหลู่ รื้อเมรุไม่ขอขมา

(บุรีรัมย์) วัดจ้างเปลี่ยนปล่องเมรุ แต่เครนรับน้ำหนักไม่ไหว ล้มทับศาลาการเปรียญพังยับ พระหนีตายกระเจิง ชาวบ้านติงลบหลู่เมรุ-คนขับเครนไม่ทำพิธีขอขมาก่อน ด้านกรรมการวัดบอก ผู้รับเหมามักง่าย ไม่ทำตามคำแนะนำเจ้าอาวาส รีบเร่งงานให้เสร็จ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เบื้องต้น คาดความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดจำปา ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดเหตุรถเครนล้มทับศาลาการเปรียญของวัด ระหว่างกำลังซ่อมแซมเมรุภายในวัด ทำให้ศาลาการเปรียญได้รับความเสียหายอย่างหนัก และอยากจะให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้รับเหมา จากการตรวจสอบวัดดังกล่าว พบว่าศาลาการเปรียญและตัวเมรุได้รับความเสียหายค่อนข้างหนัก นอกจากนี้ ยังพบรถเครนพลิกตะแคงได้รับความเสียหายอีก 1 คัน

จากการสอบถาม พระวิชัย กิติศาโร อายุ 60 ปี พระลูกวัดดังกล่าว เล่าว่า เจ้าอาวาสได้จ้างผู้รับเหมามาเปลี่ยนปล่องควันเมรุ จากปูนเป็นสแตนเลส เพราะปล่องไฟใช้มานานกว่า 40 ปี ช่วงเกิดเหตุมีคณะกรรมการมาเฝ้าดูระหว่างการยกเอาปล่องไฟเดิมออก ทันใดนั้นเครนได้ล้มลงเสียงดังสนั่น ทำให้คณะกรรมการวัดและพระที่อยู่บริเวณนั้น ต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จังหวัดยโสธร Kick off รับซื้อขยะรีไซเคิล ตามโครงการ 'คัดแยก (ขยะ) แลกบุญ' เพื่อลดปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม

วันที่  23 มกราคม 2566 เวลา 10.30 น. นายวิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานกิจกรรม Kick off โครงการ 'คัดแยก (ขยะ) แลกบุญ' ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมี นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดยโสธร ท้องถิ่นจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ  ครู นักเรียน เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ อาคารโดมหอประชุมวิถีอีสาน ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร

ทั้งนี้ กิจกรรม Kick off โครงการคัดแยก (ขยะ) แลกบุญ ประจำปี พ.ศ. 2566 นั้น เป็นกิจกรรมที่ให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมสะสมแต้มบุญ ด้วยการนำขยะรีไซเคิลมาจำหน่าย เมื่อจำหน่ายได้ 1 บาท = 1 แต้มบุญ อีกทั้งเพื่อให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันคัดแยกขยะ และนำขยะรีไซเคิลมาจำหน่าย เป็นการลดขยะ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย ส่วนการร่วมบริจาคสะสมแต้มบุญนั้น เงินที่ได้จะนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และใช้ในกิจกรรมสาธารณกุศลต่อไป

โดยในวันนี้ มีหน่วยงาน จำนวน 31 หน่วยงาน ที่มารวมสะสมแต้มบุญ รวมจำนวน 5,417 แต้มบุญ สามารถลดภาวะเรือนกระจกได้ 4,334 กิโลกรัมคาบอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ปล่อยไว้ไม่ได้!! ‘อนุทิน’ ลั่น!! ต้องจัดการ ตร. นำรถ นทท.จีน ยัน!! ไม่กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย

(23 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีคลิปเผยแพร่ตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนในสนามบิน ว่า เขาอาจใช้วิธีซิกแซ็ก ตามกฎหมายไม่มีเรื่องดังกล่าว การใช้ทรัพย์สินหรือบุคลากรของทางราชการ มาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ทําไม่ได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่หน่วยงานต้นสังกัดของผู้ที่ไปอำนวยความสะดวกต้องไปแก้ปัญหา ดูว่าเขาทำผิดระเบียบหรือไม่ เรื่องนี้มีบทกำหนดการลงโทษอยู่ ยืนยันว่าในเรื่องของการท่องเที่ยว หากใครโฆษณาว่าใช้รถตำรวจนำได้ ก็มีแต่ถ้าทำผิดมาก ๆ ก็นำไปโรงพัก นําไปศาล เพื่อดำเนินคดี เรามีระบบที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการไปประชาสัมพันธ์ว่าสามารถทําได้ นายอนุทิน กล่าวว่า การตั้งใจกระทำผิดเพื่อประโยชน์การสร้างรายได้ ก็เป็นความเสี่ยงของเขา ถ้าคนไปเชื่อและใช้บริการเขา แล้ววันหนึ่งเกิดทําไม่ได้ เขาก็ต้องเดือดร้อน อาจต้องถูกดำเนินคดี สุดท้ายธุรกิจก็ไม่ยั่งยืน คนที่โฆษณาเช่นนี้ก็จะผิดต่อลูกค้าของเขา แต่คนที่ไปให้บริการแบบนี้ ถือว่าผิดกฎหมายบ้านเมืองและผิดระเบียบในทุก ๆ เรื่องอยู่แล้ว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษ ไม่ต้องกังวล ไม่ได้เป็นส่วนที่ทําให้ประเทศไทยจะสูญเสียนักท่องเที่ยว เพราะเราไม่ได้โฆษณาว่ามาเมืองไทยแล้วจะมีรถนํา

เอาใจสายบู๊!! สวนสัตว์ขอนแก่น ร่วมกับชมรมปีนผาขอนแก่น จัดเทศกาลปีนผานานาชาติ ขอนแก่น 2023 ครั้งที่ 4

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2566 สวนสัตว์ขอนแก่น ร่วมกับชมรมปีนผาขอนแก่น จัดเทศกาลปีนผานานาชาติ ขอนแก่น 2023 (Khon Kaen International Bouldering Festival 2023) ครั้งที่ 4 ขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 มกราคม พ.ศ. 2566 ในพื้นที่สวนสัตว์ขอนแก่นขอนแก่น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกีฬาเชิงผจญภัยในจังหวัดขอนแก่น และประชาสัมพันธ์ศักยภาพพื้นที่ปีนผาโบลเดอร์ลิ่งหินทราย โดยสวนสัตว์ขอนแก่น มีทรัพยากรโขดหินเตี้ยมากที่สุดถึง 500 ก้อน ในพื้นที่ 2,986 ไร่

ซึ่งมีความสวยงาม และมีจำนวนโขดหินที่ปีนได้มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาผจญภัยเข้าสู่จังหวัดขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มพัฒนาพื้นที่ปีนผาในสวนสัตว์ขอนแก่นใน ปี พ.ศ. 2560

ในการจัดการแข่งขันครังนี้ มีผู้เข้าร่วมแข่งที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อาทิเช่น ญี่ปุ่น เคนนาดา เยอรมันนี สวีเดน และประเทศไทย เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยายกาศโดยรวมมีความคึกคัก

ที่มา : https://www.77kaoded.com/news/aekkapongputta/2395287


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Esan Time Thailand
Take Me Top