Thursday, 28 March 2024
POLITICS

‘นาวิน คำเวียง’ ลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคภูมิใจไทย ลั่น!! จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.66) ที่หอประชุมโรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม จ.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยนโยบาย และแนะนำตัวนายเอกราช ช่างเหลา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ขอนแก่น ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังปราศรัยจำนวนมากจนล้นออกจากหอประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างปราศรัยมีการเซอร์ไพรส์เปิดตัว นายนาวิน คำเวียง อดีตสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ที่จะลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งประกอบด้วย อ.หนองเรือ อ.บ้านฝาง และ อ.ภูเวียงบางส่วน

นายเอกราช ได้กล่าวแนะนำนายนาวิน และเชิญนายศักดิ์สยาม เป็นผู้สวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย เพื่อเป็นการต้อนรับนายนาวิน เข้าพรรคอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนอย่างกึกก้อง โดยนายศักดิ์สยามขอให้ชาวขอนแก่นเลือกทั้งนายเอกราชและนายนาวิน เป็น ส.ส. เข้าสภาฯ ให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย นายนาวินได้เดินทักทายพบปะกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจกว่า 300 คน พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนตนมาโดยตลอด และยังอยู่ช่วยกัน ไม่ว่าตนจะอยู่พรรคไหน วันนี้ตนเปลี่ยนสีเสื้อมาอยู่ภูมิใจไทยแล้ว และเราจะสู้ไปด้วยกัน ตนจะพูดแล้วทำ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง บุรีรัมย์เจริญเพราะมีเนวิน ขอนแก่นก็มีนาวินเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนที่นายศักดิ์สยามจะเดินทางกลับ ได้มีคนเสื้อแดงมาตั้งแถวส่ง พร้อมส่งเสียงเชียร์พรรคภูมิใจไทยเป็นระยะ

‘ลุงหนู’ เตรียมนำทัพหาเสียง จ.กาญจนบุรี พร้อมเปิดตัว 5 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภูมิใจไทย

(8 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 10 - 11 ก.พ.นี้ พรรคภูมิใจไทย นำทีมโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค จะลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ตลอดจนจัดเวทีปราศรัย ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี และ จ.นครปฐม พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยในวันที่ 10 ก.พ.นี้ เริ่มที่ จ.กาญจนบุรี โดยตั้งแต่เวลา 15.45 น. จะขึ้นรถแห่พบปะประชาชนพี่น้อง ชาว จ.กาญจนบุรี

จากนั้น เดินทางถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แล้วเดินทางไปวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง (วัดใต้) กราบสักการะรูปหล่อพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) และกราบพระเทพปริยัติโสภณ (เจ้าคุณปัญญา) เจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้น นายอนุทิน และคณะจะเดินทางถึงท่าเรือวัดใต้ แล้วเดินทางโดยทางเรือล่องแม่น้ำแม่กลองเดินทางผ่านบ้านลิ้นช้าง เข้าสู่แม่น้าแควใหญ่ แวะทักทายชาวเรือ ชาวแพที่ท่าเรือเทียบแพแควใหญ่ (เกาะรัตนกาญจน์) ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ ในเวลา 17.45 น. ณ ลานเอนกประสงค์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว

นายอนุทิน จะเปิดปราศรัยถึงบริเวณพื้นที่ปราศรัย ทักทายประชาชนและ เปิดตัว ว่าที่ส.ส.กาญจนบุรี  พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 5 เขต ประกอบไปด้วย พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1, นายสมเกียรติ วอนเพียร ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2, นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3, นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ  ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 และนายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5

ส่วนในวันที่ 11 ก.พ. ที่ จ.นครปฐม เวลา 13.00 น. นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ และกราบขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ จากนั้นเยี่ยมชมพระราชวังสนามจันทร์ ถวายสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เยี่ยมชม อนุสาวรีย์ย่าเหล พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ จากนั้น 16.00 น. นายอนุทิน จะได้เปิดเวทีปราศรัย นำเสนอนโยบายพรรคภูมิใจไทยพร้อมเปิดตัวนายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐม เขต 4

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.พ.นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะยกแกนนำพรรคบุก จ.กาญจนบุรี เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นการเปิดปราศรัยใหญ่ต่างจังหวัดครั้งแรก ของพล.อ.ประวิตร พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต ซึ่งจะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่หมด เนื่องจาก อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 4 คน ได้ย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยแบบยกทีมทั้ง 4 คนหมดแล้ว

'อนุทิน' กล่าวปราศรัยบนเวที ที่ชุมชนบ่อนไก่ ขณะช่วย 'ส้ม-พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์' หาเสียง

เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.66) ที่ศูนย์เยาวชนปทุมวัน กทม. พรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยย่อยช่วย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตปทุมวัน หาเสียง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม.พรรคภูมิใจไทย, นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรค, น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และสมาชิกพรรคร่วมขึ้นเวทีครั้งนี้

น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนทุกคนที่สนับสนุนตนมาตลอดการเป็น ส.ส.เขตปทุมวัน ตนรู้สึกว่าทุกคนเป็นคนในครอบครัว และความตั้งใจของตนยังเหมือนเดิม คือต้องการรับใช้ประชาชน เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องประชาชน

ขณะที่ นายศุภชัย ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ครั้งที่แล้วเราเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ตอนนี้ความสงบมีเกินไปแล้ว แต่สิ่งที่ไม่มีคือเงินในกระเป๋า ถ้าจะให้คนเดิมบริหารประเทศ 8 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่ามันไม่ได้แล้ว พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะขายความสงบอยู่ ตนว่ามันไม่ได้แล้ว ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่ายังเป็นนายกฯ ได้ เนื่องจากอายุยังไม่ถึง 75 ปี ตนก็ว่ามันสามารถเป็นไปได้ตามสิทธิ์ แต่ส่วนตัวตนมองว่าคนที่เหมาะสม คือ นายอนุทิน

จากนั้นเวลา นายอนุทิน ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีความแน่วแน่ในการจะมารับใช้ประชาชนชาวบ่อนไก่ และชาว กทม. ตนเป็น ส.ส. มาแล้ว 10 ปี แต่ไม่เคยได้ใจคน กทม. สักเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้ชาว กทม. ใจอ่อนให้พรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคได้นำเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชน พร้อมมั่นใจว่าวันนี้ภูมิใจไทยพร้อมรับใช้ชาว กทม. เหมือนที่รับใช้ประชาชนคนไทยตลอด 4 ปีผ่านมา ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น เรื่องคมนาคม สาธารณสุข และการท่องเที่ยว

'อนุทิน' ขอโทษ 'บิ๊กตู่' ปมลูกพรรคหาเสียงเหน็บ ความสงบจบที่ลุงตู่ เป็นเรื่องที่ขายไม่ได้ ลั่น จะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีก

(7 ก.พ.66) เวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ขึ้นปราศรัยหาเสียง ในระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าตอนหนึ่งว่า ครั้งที่แล้วเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ตอนนี้ความสงบมีเกินไปแล้ว ถ้าจะให้คนเดิมบริหารประเทศ ว่า เวลามีการหาเสียงก็คงพูดไปแบบนั้น แต่ตนจะไปเตือนนายศุภชัย ย้ำว่าการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยไม่มีพูดถึงพรรคอื่น โดยแจ้งให้สมาชิกในพรรครับทราบว่า ให้พูดแต่เรื่องที่พรรคภูมิใจไทย ต้องการสื่อสารกับประชาชน และจะทำอะไรให้ประชาชน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นและพรรคอื่น

เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ในเรื่องนี้​ ในที่ประชุม​คณะรัฐมนตรี​ หรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ฝากขอโทษผ่านสื่อไปยังนายกรัฐมนตรี​ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์​ของพรรคภูมิใจ​ไทย​ที่จะพูดถึงบุคคลอื่น

“ผมต้องขอโทษในการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนของผม ไปยังลูกพรรค ผมขอโทษแทน และจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก และกราบขอโทษนายกฯ ด้วย วันนี้เจอกับนายกฯ ในที่ประชุม ครม. ก็ต้องไปขอโทษท่าน เพราะเวลาขึ้นเวที มีบทเพลงพาไป แต่ไม่ใช่เป็นเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าพรรคได้ย้ำแล้วว่า ห้ามพูดถึงคนอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการพูดดังกล่าวจะเป็นปัญหาในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เป็น และพรรคภูมิใจไทยก็โดนพรรคอื่นใส่มาเต็ม ๆ เหมือนกัน จริง ๆ ถ้าไม่คิดมากเรื่องนี้เป็นปกติทางการเมือง แต่ตนคิดว่าการขัดแย้งในบ้านเมืองหรือพูดถึงคนอื่นในทางไม่ดี ไม่ใช่สไตล์การทำงานของตน

'อนุทิน' ลั่น ไม่หลบซักฟอก ชี้ พูดในสภาให้ปชช.รับฟัง ดีกว่าพูดนอกสภา ไม่หวั่น ฝ่ายค้านถามมาก็ตอบไป เหน็บ คนทำงานรู้ดีกว่าคนไม่ได้ทำงาน

(7 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าพรรคภูมิใจไทย มีท่าทีจะล้มหรือไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ มาตรา 152 เพราะกังวลจะถูกถล่มในสภา ว่า ถามว่าถ้าหลบแล้วจะทำให้ไม่ประชุมได้หรือไม่ ยิ่งหลบแล้วไปอภิปรายนอกสภาฯ ก็ไม่มีโอกาสที่จะชี้แจงโต้แย้ง หรือโต้ข้อกล่าวหาใดๆ เลย ซึ่งเจตนารมย์ของการอภิปราย มาตรา 152 คือ การให้คำแนะนำของฝ่ายค้านต่อรัฐบาล เชื่อว่าช่วงสุดท้ายของสภาชุดนี้ฝ่ายค้านก็เตรียมใส่เราเต็มที่ ส่วนเราก็ต้องพูดให้เต็มที่ เขาอยากจะพูดอะไรก็พูด ส่วนเราอยากพูดอะไรก็พูด เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งนั้น อย่าไปกังวลอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าเวลา 8 ชั่วโมงถือว่าเพียงพอต่อการชี้แจงของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีเนื้อหาสาระก็เพียงพอ ถ้ามัวแต่ทะเลาะกันไปมาก็อย่าไปหลงในเกมของเขา เราพูดแต่ในข้อเท็จจริง ส่วนเขาพูดอะไรเราไปห้ามไม่ได้ แต่ไม่มีทางรู้มากกว่าเรา เพราะเราเป็นคนทำงาน หากพูดถึงเรื่องกระทรวงที่เราทำงาน คนที่ทำงานย่อมพูดได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำงาน ส่วนข้อมูลที่ได้ไปไม่รู้ต่อกี่ครั้งก็เป็นเรื่องที่ปราศจากความจริง มีการแต่งเติมเสริมเรื่องเข้ามา โดยรัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็ตอบได้ ผลจากการลงคะแนนเห็นตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เห็นแล้วว่าคะแนนท่วมท้น กระทรวงในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ตอบได้สบายมากอยู่แล้ว แต่หากมีการให้คำแนะนำจะดีมากเพราะพรรคภูมิใจไทย เป็นพวกที่ฟังอะไรที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง แม้จะมาจากฝ่ายค้านก็พร้อมรับฟัง และสิ่งใดที่ควรนำไปปรับปรุงแก้ไขก็จะนำไปแก้ไข เพราะการเล่นการเมืองเชิงสร้างสรรค์ คนที่ได้ประโยชน์คือประชาชนและบ้านเมือง

‘ศุภชัย’ ยัน!! ภท. ร่วมเป็นองค์ประชุมซักฟอก 152 ขู่!! หากอภิปรายแบบ 151 จะเสนอนับองค์ประชุม

(7 ก.พ.66) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรค ภท.ยืนยันว่าจะเข้าเป็นองค์ประชุมในการประชุมวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ แต่ทั้งนี้การอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 รัฐธรรมนูญให้เจตนารมณ์คือ การตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาให้รัฐมนตรี ซึ่งประเด็นนี้ต้องทำความเข้าใจว่าไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หากการอภิปรายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เราก็จะร่วมประชุมด้วย แต่หากพบว่าการอภิปรายไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 มีการอภิปรายเหมือนมาตรา 151 หรือนำเรื่องเดิมมาอภิปรายซ้ำ พรรค ภท. จะแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย และคงจะต้องมีการประท้วง รวมถึงขอให้นับองค์ประชุม โดยเราจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม

“วันนี้จะครบวาระสภา 4 ปีแล้ว ปรากฏว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มไปแล้วประมาณ 30 ครั้ง และการประชุมร่วมรัฐสภาล่มไปแล้ว 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พรรค ภท.ร่วมเป็นองค์ประชุมและสมาชิกอยู่ครบตลอดมา เราไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้องค์ประชุมล่ม” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการบิดเบือนว่าเราทำให้องค์ประชุมล่มนั้น เราไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะเห็นว่าวิปรัฐบาลทำงานไม่เข้มแข็ง ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ เราจึงเรียกร้องให้วิปรัฐบาลทำหน้าที่ให้เข้มแข็ง ควบคุมให้พรรคการเมืองต่างๆ อยู่เป็นองค์ประชุมให้ครบ แต่ปรากฏว่าวิปรัฐบาลไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าว เราจึงแสดงจุดยืนไม่เป็นองค์ประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาในวันนี้ เราจะอยู่เป็นองค์ประชุมครบแน่นอน

Click on Clear >> https://thestatestimes.com/post/2023020709

'อนุทิน' ให้สัมภาษณ์ กรณีไม่จับมือกับพรรคที่แตะต้องมาตรา 112

เมื่อไม่นานมานี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการที่ไม่จับมือกับรัฐบาลด้วยกันเอง โดยระบุว่า

“เอาที่ไม่จับมือก่อน อย่ามาแตะมาตรา 112 ถ้าเราไม่คิดอะไร 112 ไม่มีอิทธิพลกับเราเลย ประเทศของเราต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ เป็นเอกลักษณ์ของประเทศ เป็นประเทศที่ทำให้คนเห็นว่าเรามีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม ประเพณี มีความเป็นปึกแผ่น”

‘อนุทิน’ ยัน!! โยก ‘หมอสุภัทร’ เป็นเรื่องฝ่ายประจำ ชี้!! อุทธรณ์เป็นสิทธิ ว่ากันไปตามขั้นตอน

‘อนุทิน’ ยันซ้ำโยก ‘หมอสุภัทร’ เป็นเรื่องฝ่ายประจำ รมต.ไม่เกี่ยว ชี้ อุทธรณ์เป็นสิทธิว่าตามขั้นตอน เมิน ‘ก้าวไกล’ หวังใช้โจมตีช่วงอภิปราย ม.152 ห้ามใครพูดไม่ได้ ลั่นต้องยึดกม. แจงปม ‘ป้ายนโยบายผู้สูงอายุ’ แยกระหว่างงานการเมือง กับงานบริหารราชการแผ่นดิน เปรียบเหมือนเป็น ‘แบรนด์แอมบาสเดอร์’ ให้ฟรี อัดกลับอย่ามาเสียเวลากับเรื่องที่ไร้ผลใด ๆ

(6 ก.พ.66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่มีผลวันที่ 6 ก.พ. 66 ว่า ถ้าตามเอกสารมีผลวันที่ 6 ก.พ. 66 และเท่าที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรายงานก็เห็นว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามขั้นตอนราชการ ซึ่งตนยังไม่มีเวลาไปติดตาม เพราะว่าไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของส่วนราชการประจำ

เมื่อถามว่า ได้มีการยื่นคัดค้านมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าจะมีการยื่นคัดค้านมา ก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว ต้องยื่นอุทธรณ์ ซึ่งเป็นสิทธิข้าราชการ ต้องยื่นอุทธรณ์ขึ้นมาเป็นลำดับชั้น ตนคิดว่าเราต้องดูตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าอุทธรณ์ขึ้นมาจะมีระยะเวลากำหนดว่าต้องกี่วัน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับระดับการเมือง เพราะมาไม่ถึงจริง ๆ ขึ้นมาก็ขึ้นไม่ถึง ลงมาก็ลงไม่ถึง เพราะว่าระบบของส่วนราชการอยู่ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าอะไรก็ตามเป็นเรื่องงานบริหารราชการในส่วนข้าราชการประจำ ก็เป็นเรื่องปลัดกระทรวงอยู่แล้ว รัฐมนตรีมอบนโยบายในการทำงานของกระทรวง ไม่ใช่มอบนโยบายในการบริหารบุคคล อันนั้นไม่ใช่หน้าที่รัฐมนตรี ไม่มีสิทธิมอบด้วย

เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างกรณีพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นเรื่องการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ายิ่งมองเป็นเรื่องการเมือง ยิ่งทำให้ความชอบธรรมไม่เกิด เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีวุฒิภาวะ มีดุลพินิจในการบริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเต็มตัวอยู่แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องมาปรึกษาใด ๆ กับฝ่ายการเมือง

ตนขอเรียนย้ำอีกครั้งการหารือในเรื่องของการบริหารงานบุคคล ในส่วนที่ปลัดกระทรวงจะหารือกับทางรัฐมนตรีได้ก็คือ เมื่อมีการเสนอข้าราชการระดับ 10 ขึ้นไป ตรงนั้นรัฐมนตรีมีสิทธิหารือปลัดกระทรวงได้ เพราะรัฐมนตรีเป็นคนลงนาม นำเสนอเพื่อรับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตรงนั้นถึงจะมีช่องทางพูดคุยกันได้ ในส่วนของข้าราชการที่ต่ำกว่าระดับซี 10 ลงไป ตรงนี้ปลัดกระทรวงไม่จำเป็นต้องมาหารือใด ๆ ฝ่ายนโยบาย 

‘ฉลอง เรี่ยวแรง’ ยกครอบครัวซบภูมิใจไทย เผยถูกใจ ‘อนุทิน’ ดำรงไว้ซึ่งมาตรา 112

วันที่ 6 ก.พ. 66 เวลา 11.50 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ให้การต้อนรับนายฉลอง เรี่ยวแรง, นางเจริญ เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ปารมี เรี่ยวแรง บุตรสาว ที่มาเปิดตัวเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า "พรรคภูมิใจไทยยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทั้ง 3 ท่าน ซึ่งจะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี ทั้ง 3 ท่าน มีประสบการณ์ทำงาน มีความสนิทคุ้นเคยกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยมายาวนาน วันนี้เราดีใจมากที่ท่านนำครอบครัว 'เรี่ยวแรง' มาร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเชื่อว่า ทั้ง 3 ท่านจะทำงานให้ จ.นนทบุรี ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ล่าสุดพรรคได้รับสำเนาจากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิมของทั้ง 3 ท่าน ได้รับการประทับรับเอกสารเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน นางเจริญ ก็ได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส.ในวันนี้ (6 ก.พ. 66) เรียบร้อยแล้วเช่นกัน"

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนที่ทั้ง 3 ท่าน มาเปิดตัวร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ (6 ก.พ. 66) เพื่อความไม่ประมาท เราจึงเชิญท่านมาสมัครวันนี้ เพื่อป้องกันเดดล็อกทางการเมืองเกี่ยวกับเงื่อนไขเวลา 90 วัน ในการสังกัดพรรคการเมือง กรณีหากนายกรัฐมนตรีไม่ประกาศยุบสภา ไม่ได้เป็นการออกปุ๊บเข้าปั๊บ แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยง และการเกิดปัญหาในอนาคต

เมื่อถามว่า จะส่งผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี ครบทั้ง 8 เขตหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อเราได้ผู้ใหญ่อย่างนายฉลอง และนางเจริญ เข้ามาร่วมงานกับพรรค ทำให้การบริหารจัดการ หรือการนำเสนอผู้สมัครท่านอื่น ๆ พรรคจะมอบความรับผิดชอบการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ให้ท่านได้พิจารณาตัดสินใจว่าจะส่งครบทุกเขตหรือไม่ เราเชื่อมือซึ่งกันและกัน

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 'อนุทิน' กั๊กตอบ ปมเป็นองค์ประชุมอภิปรายทั่วไป ชี้ สภาทำงานต่อไปได้ หากไร้กลเกมการเมือง

วันที่ 6 ก.พ. 66 เวลา 09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโพลหลายสำนักที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเมืองในช่วงนี้ ว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมอยู่ตลอดและช่วงสุดสัปดาห์ก็เดินสายลงพื้นที่ และจะมีการทยอยเปิดตัวผู้มาร่วมงานกับพรรคตลอดเวลา

ขณะนี้ยังมีเวลา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังไม่ได้ยุบสภา และคาดว่าว่าจะมีการเลือกตั้งในต้นเดือน พ.ค.นี้ แต่ถ้ามีการยุบสภาจะมีเวลา 30 วัน ในการสมัครเป็นสมาชิกพรรค แต่ถ้าไม่ยุบสภา จะมีเวลา 90 วัน แต่คิดว่าจะมีการยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้ยุบสภา เพราะเห็นว่าสภาไม่สามารถทำหน้าที่ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าไม่มีการเล่นเกมทางการเมือง สภาก็ทำงานได้ ส.ส. ส่วนใหญ่ยังมาประชุม ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงตัวหรือไม่ ทั้งนี้เวลาที่กฎหมายกัญชา-กัญชง เข้าสู่การพิจารณา ยังมี ส.ส.หลายคนไม่แสดงตน พรรคภูมิใจไทยจึงต้องมีท่าทีออกมาบ้าง

เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคภูมิใจไทย จะมีผลกระทบกับการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถาม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เพราะปล่อยให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เพราะร่างกฎหมายที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เช่น ร่าง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง ที่ตั้งใจทำมาอย่างดี แต่มาเจอเกมการเมือง ในการพิจารณาวาระ 2 จึงต้องดูตรงนี้ เพราะเราไม่ใช่หมู และการแสดงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย จะต้องไม่กระทบกับประชาชน

'อนุทิน' เอาจริงเรื่องยาบ้า ยื่นเรื่องเข้า ครม.แน่นอน ยัน แม้ยุบสภาฯ ก็มี ครม.รักษาการ

เมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

กล่าวถึงการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข ประเด็นการครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ดเท่ากับเป็นผู้ค้า โดยจะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 ก.พ.นี้หรือไม่ ว่าวันนี้พยายามที่จะปรับเนื้อหาให้มีความกระชับและชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการตีความใด ๆ แต่หลักการเนื้อหาก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

โดยนึกถึงความปลอดภัยของเยาวชน ผู้เสพยาบ้า เราก็ต้องนึกถึงการทำให้ไม่มียาบ้าแพร่หลายในพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนการไม่พร้อมในเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องรอง เพราะเรื่องหลักคือประชาชนไม่เข้าถึงยาบ้า

เมื่อถามว่า ร่างกฎกระทรวงฯดังกล่าว จะเข้าไม่ทันในวันที่ 7 ก.พ.นี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนจะตรวจสอบดูก่อน เพราะขณะนี้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบอยู่ พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้ยุบสภาเมื่อไหร่ ครม.ก็ยังรักษาการอยู่ ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ บริหารราชการแผ่นดินได้จนกว่า ครม.ชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ ซึ่งยังมีเวลาอีกหลายเดือน

'อนุทิน' ชี้ 'องค์ประชุมสภา' ถือเป็นสปิริตรวม อย่าคาดหวังจากพรรคภูมิใจไทยฝ่ายเดียว ในขณะที่พรรคอื่น ๆ ไม่มีสปิริต

เมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศจุดยืนไม่เป็นองค์ประชุมสภา จะทำให้ขาดเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นองค์ประชุมมาโดยตลอด มีแต่ถูกกระทำหรือภูมิใจไทยถูกทำให้กฎหมายของพรรคไม่สามารถผ่านสภาฯได้

ทั้งที่ทุกอย่างเป็นประโยชน์กับประชาชน และได้ผ่านในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) เรียบร้อย ฉะนั้น พรรคภูมิใจไทยเราก็มีความอดทนอยู่ระดับหนึ่ง

'ลุงหนู' มั่นใจ!! ได้ ส.ส.พื้นที่ กทม. แน่นอน โว!! 'ภูมิใจไทย' มีทีมงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด

(5 ก.พ.66) เมื่อเวลา 17.05 น. ที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งพื้นที่ กทม. ว่า ก็ต้องมั่นใจ เพราะทีมงานพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่กทม. ตอนนี้ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่มีพรรคมา นำโดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. และทีม ส.ส.กทม. ที่มาลงในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็ต้องมั่นใจ เพราะเราได้มีการพูดคุยถึงนโยบาย และวิธีการทำงานจนทำให้ได้ ส.ส.เหล่านั้นมาร่วมงาน ตนเชื่อว่าจะทำให้มีความต่อเนื่องในการทำงานของ ส.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างรวดเร็ว พร้อมย้ำว่าทีม กทม.เป็นหัวใจสำคัญของพรรค และตลอดเวลา 4 ปี เราไม่มีส.ส.ใน กทม. แต่ก็ทำประโยชน์ได้มาก ในส่วนนี้ก็อยากจะทำให้ได้มากขึ้นไปอีก พร้อมเปิดเผยว่าตั้งใจจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบทุกเขตทั่วประเทศ

เมื่อถามว่า เขตคลองเตย ถือว่ายากหรือไม่ เพราะมีนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายพงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม. ลงสมัครด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ยากทุกเขต ไม่ใช่เฉพาะกทม. แต่ยากทุกเขต ทุกพื้นที่ เพราะฉะนั้น คนที่สมัครจะต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างรวมกัน ทั้งขยัน เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ ต้องอยู่กับพรรคที่มีนโยบายเป็นประโยชน์กับประชาชน และสนองนโยบายเหล่านั้นได้ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมมากๆ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้

‘อารี ไกรนรา’ ถกแกนนำชาวบ้าน 4 ตำบล ในอำเภอหัวไทร อ้อน!! หากยังไม่มีพรรคในใจ ‘ภูมิใจไทย’ คือคำตอบ

เมื่อวานนี้ (4 ก.พ. 66) นายอารี ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประธานยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย นครศรีธรรมราช นัดประชุมแกนนำชาวบ้านทั้งท้องถิ่น ท้องที่ ในสี่ตำบลของอำเภอหัวไทร ประกอบด้วยตำบลแหลม ต.บ้านราม ต.เขาพังไกร และ ต.ควนชะลิก ประมาณ 30 คน

นายอารี ได้เล่าประวัติตัวเองให้ฟังตั้งแต่การทำงานในรั้วรามคำแหง ความผูกพันกับอดีตนักศึกษากิจกรรม การช่วยเหลือน้องๆ (เด็กใต้) ในบางครั้ง ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งเรื่องเงินลงทะเบียน ตลอดจนการตัดสินใจลาออกจากการเป็นข้าราชการในมหาวิทยาลัยมาทำงานการเมือง พร้อมกับตำแหน่งต่างๆ ทางการเมืองที่เคยทำมา

นายอารี กล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อชาติ และลาออกจาก ส.ส.เพื่อมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย

“ผมปรึกษากับอาจารย์สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง อาจารย์สุขุมบอกว่า พรรคภูมิใจไทยคือคำตอบของคนใต้ ถ้าคนใต้คิดจะเปลี่ยนพรรค ภูมิใจไทยคือคำตอบ”

นายอารี กล่าวว่า ตนได้ทำงานพัฒนาให้กับจังหวัดต่างๆ มามาก ในบั้นปลายของชีวิตในวัย 70 ปี อยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด สองเดือนที่ผ่านมาก็กลับมาลงพื้นที่อย่างจริงจัง เดินทางไปพบญาติมิตรพี่น้องเหมือนกับที่มาในวันนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี กับแนวทาง ‘คิดแล้วทำ’ ของพรรคภูมิใจไทย และ 4 ปีที่ผ่านมา ประชาชนก็ได้เห็นผลงานของพรรคภูมิใจไทยมากมาย เดินทางไปไหนมาไหนก็เห็นถนนกว้างขวางขึ้น บางเส้นทางกำลังซ่อม-สร้าง ก็เป็นผลงานของพรรคภูมิใจไทย

ย้อนไทม์ไลน์!! แผนแก้ฝุ่นพิษ 2.5 'พรรคภูมิใจไทย' เปลี่ยนรถเมล์ EV กว่า 1,250 คัน ยังแค่ออเดิร์ฟ!!

สิ่งที่คล้ายหมอก คล้ายควัน ที่กำลังคลุมทั่วท้องฟ้ากรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยนั้น ใคร ๆ ต่างก็ทราบดีว่ามันคือ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กลับมาทุก ๆ ปี และคงไม่ต้องสาธยายว่ามันคือ ต้นเหตุของปัญหาระบบทางเดินหายใจ และต้นเหตุของมะเร็งปอดที่คร่าชีวิตคนไทยไปนับไม่ถ้วน ติด 1 ใน 5 ของโรคที่คร่าชีวิตประชาชนคนไทย

คำถาม คือ เหตุซ้ำซากเช่นนี้ ทำไมไร้แผนการ ไม่มีแผนระยะยาวเพื่อดูแลเลยหรือ? ถ้าให้ตอบโดยมีฝุ่นพิษในวันนี้เป็นตัวชี้วัด ก็คงตอบว่าใช่ แต่ถ้าจะให้ตอบว่าในอนาคตอันใกล้ อาจจะต้องบอกว่า 'มันกำลังถูกแก้' แบบยั่งยืน โดยเรื่องนี้ ต้องยอมให้กับพรรคภูมิใจไทย ที่ขับเคลื่อนผ่านกระทรวงคมนาคม

เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเพราะ...

เท่าที่สำรวจตรวจสอบ พบว่า ขณะนี้การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ แบบเอาจริงเอาจังนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ที่ได้มีการตั้งด่านสกัดรถบรรทุก รถกระบะควันดำ ควันขาว จากการเผาไหม้ในห้องเครื่องที่ไม่สมบูรณ์ เป็นประจำสม่ำเสมอ ใครทำผิดก็ให้ไปแก้ไข ปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ แต่ไม่มีการรายงานข่าวแม้แต่น้อย ทั้งที่เป็นเรื่องที่จะสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชาติ ขณะที่การแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ ก็ยังมีความพยายาม

ขณะเดียวกันในส่วนของรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ เป็นส่วนสำคัญ เป็นต้นเหตุของปัญหานี้เช่นกัน เพราะรถเมล์ในเมืองไทยจำนวนหลายพันคันมีอายุหลายสิบปี สภาพเก่าแก่ เครื่องยนต์ทรุดโทรมตามกาลเวลา ปัญหารถเมล์แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาครัฐ ที่เป็นของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กับ รถร่วมเอกชน

เอาในส่วนของภาครัฐ กระทรวงคมนาคม พยายามทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยุค โสภณ ซารัมย์ เป็น รมว.คมนาคม พยายามเสนอเปลี่ยน รถ ขสมก.เป็นรถเมล์พลังงานสะอาด ใช้ก๊าซ NGV แต่ก็ถูกคัดค้านตีตกไปจาก พรรคพวกดีแต่พูด ไม่เคยมีผลงาน

พอมายุค ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม ก็พยายามเสนอให้ ขสมก.เปลี่ยนจากรถพลังงานดีเซล เป็น รถพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ EV ทั้งระบบ เชื่อมต่อ รถ ราง เรือ พร้อมกับการปฏิรูปเส้นทาง ขสมก.ใหม่ทั้งระบบ แต่ก็ถูกหน่วยงานอย่าง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไม่ทราบทำงานเช้าชาม เย็นชามอย่างไร เรื่องนี้เข้าไปค้างคามาถึง 2 ปีแล้ว เป็น 2 ปีแห่งการสูญเสียโอกาส สูญเสียชีวิต ของประชาชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม


© Copyright 2022, All rights reserved. Esan Time Thailand
Take Me Top