ยกระดับคุณภาพชีวิต!! ‘รมว.เฮ้ง’ ส่ง ‘โฆษก’ ให้กำลังใจกลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน (อุดรฯ) หลังเข้าถึงรายได้แล้ว เฉลี่ยคนละ 3,000 - 5,000 บาทต่อเดือน

(9 พ.ย. 65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) พร้อมด้วย นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางานและคณะ ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อตรวจเยี่ยมพบปะให้กำลังใจกลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน 'ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าย้อมคราม' โดยมี นางสมภาร คำภารหมี ประธานกลุ่ม พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุดรธานี และสมาชิกกลุ่มรับงานไปทำที่บ้านร่วมให้การต้อนรับ ณ ศูนย์การเรียนรู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตำบลเชียงยืน อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี 

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบที่มีอยู่กว่า 22 ล้านคน ให้เกิดการจ้างงานในระดับพื้นที่ เพราะแรงงานทุกคนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ในวันนี้ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้ดิฉันและคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมพบปะให้กำลังใจแก่สมาชิกกลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน 'ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าย้อมคราม' ที่จังหวัดอุดรธานี 
 

นางเธียรรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับประธานกลุ่ม พบว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุดรธานีได้เข้ามาสนับสนุนการประกอบอาชีพอิสระตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน อาทิ สำนักงานจัดหางานจังหวัดส่งเสริมการรวมกลุ่มและสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน จนทำให้ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 10 คน มีรายได้เฉลี่ยคนละ 3,000 - 5,000 บาทต่อเดือน 

โดยทางสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ยังได้ฝึกอบรมทักษะการตลาดออนไลน์ ขณะที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดก็ได้ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด เข้ามาดูแลในเรื่องการรับสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคมและเข้าถึงสิทธิประโยชน์ 

นอกจากนี้ ปัจจุบันกระทรวงแรงงานยังได้เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ซึ่งจะทำให้พี่น้องแรงงานนอกระบบมีหลักประกันทางสังคมและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป