‘บิ๊กป้อม’ ร่วมประชาสัมพันธ์ 'งาน OTOP City 2022 และ เทศกาลไหมไทย 2565' ย้ำ รัฐบาลส่งเสริมการตลาด ทั้งในและต่างประเทศ หวังเพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิต กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 13 ธ.ค.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียยรัฐบาล ก่อนประชุม ครม.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การจัดงาน OTOP City 2022 และการจัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมด้วย

พล.อ.ประวิตร เยี่ยมชมการจัดแสดงผ้าไทยลวดลายต่าง ๆ เช่น ผ้าจกราชบุรี ผ้าแพรวา ผ้าขิด และกระเช้าของขวัญปีใหม่ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรม งานฝีมือ อาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมชื่นชมผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและสินค้า OTOP อื่น ๆ ที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง ออกแบบลวดลายได้ทันสมัย สวยงาม สามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกโอกาส ทุกกิจกรรม และใช้ได้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งมอบเป็นของที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ และเป็นของขวัญปีใหม่ที่ทรงคุณค่า ขอทุกฝ่ายร่วมรักษาและต่อยอดการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย ช่วยกันพัฒนาเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว โดยรัฐบาลพร้อมส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในชุมชน รวมทั้งผู้ผลิตและผู้ประกอบการด้วย

สำหรับการจัดงาน OTOP City 2022  มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2565 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาทักษะการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมสร้างการเรียนรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า

ส่วนการจัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) กำหนดจัดระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาผ้าไทย พร้อมทั้งเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับไหมไทยในการเสริมสร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์และการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้า และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ได้มีพื้นที่ในการแสดงผลงานและเพิ่มช่องทางการตลาดไปสู่สากล ช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แก้ไขปัญหาความยากจน และความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นระบบและยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง