Monday, 20 May 2024
Esan Time Team

" แพทองธาร " ขึ้นเวทีปราศรัย " บุรีรัมย์ "

5 มีนาคม 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ศูนย์ประสานงาน พรรคเพื่อไทยเขต 10 อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเวทีปราศรัยในจังหวัดที่ 2 ของการลงพื้นที่ในสุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวบุรีรัมย์

 

นางสาวแพทองธาร กล่าวทักทายพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่ให้การต้อนรับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี ว่าการมาบุรีรัมย์ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยต้องการมาประกาศนโยบายเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากลำบาก เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นถึงปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

 

โดยในจังหวัดบุรีรัมย์นั้น มีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ที่ได้ผลตอบแทนเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกลับแรงที่ลงทุนไป พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอนโยบาย ‘3 ดี’ ได้แก่ ดินดี น้ำดี  และเมล็ดพันธุ์ดี โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำการเกษตรเพื่อทำให้น้ำและดินเหมาะสมกับการเพาะปลูก และหากมีเมล็ดพันธุ์ดี จะช่วยทุ่นแรงให้เกษตรกร ในการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีในการเพาะปลูก ขายได้ราคาดี ราคาสินค้าเกษตรต้องขึ้นยกแพง

 

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟของดีประจำบุรีรัมย์ ที่จะต้องเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พร้อมเสนอการพักชำระหนี้ 3 ปีให้แก่เกษตรกร และเปิดการพูดคุยการค้าเสรีบริเวณชายแดน เพิ่มแหล่งรายได้ให้พี่น้องประชาชน

 

ด้านปัญหาค่าแรง พรรคเพื่อไทยประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันไปนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง เพราะเพื่อไทยจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทั้งระบบ นายจ้างจะมีกำลังจ่ายค่าแรงแน่นอน ลูกจ้างจะต้องรวยไปพร้อมกับนายจ้าง ลดความเหลื่อมล้ำ แรงงานที่ทำงานไกลบ้านต้องหมดกังวลเรื่องรายได้

 

ในปัญหายาเสพติดที่หาได้ง่ายในปัจจุบันต้องกวาดล้างเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานโดย พรรคเพื่อไทยขอเสนอ 

 

1. ป.ปราบ ใครขายยาเสพติด เจอที่ไหนต้องถูกจับทันที

2. ป.เปิด เปิดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแหล่งผลิต และทำลายแหล่งผลิต

3. ป.เปลี่ยน เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย เพื่อรักษาให้ผู้ติดยาเสพติดให้กลับคืนสู่สังคม

 

“เรากำหนดอนาคตของตัวเองได้ผ่านการเลือกตั้ง ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง เพราะพรรคเพื่อไทยพร้อมจะเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนอนาคตให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ขอฝากพี่น้องชาวบุรีรัมย์ให้ได้เป็นส่วนหนึ่งให้พรรคเพื่อไทย แสนสไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค” แพทองธาร กล่าว

ค้นพบ " ภาพเขียนสีโบราณ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ "

เฟซบุ๊ก "กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา" ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดี นายช่างศิลปกรรม จากกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เเละเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สังกัดเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันสำรวจ "ภาพเขียนสีพบใหม่" ณ ถ้ำหินเพิง เทือกเขาโซ่ โดยผลจากการสำรวจพบภาพเขียนสีรูปบุคคล สัตว์ เเละลายเส้นเรขาคณิตกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วเพิงหิน ซึ่งกลุ่มโบราณคดีของเรา จะนำเสนอองค์ความรู้ผลการสำรวจในโอกาสต่อไป"

 

นายชัยพร ทับทิมทอง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ระบุผ่านทางเฟสบุ๊ก "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ว่า สืบเนื่องจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ในการตรวจสอบแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า บริเวณเพิงถ้ำ ชุดลาดตระเวนตรวจพบร่องรอยภาพเขียนสีบริเวณผนังถ้ำ และรายงานให้หน่วยงานทราบต่อมาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง จึงได้ประสานสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมาเข้าตรวจสอบภาพเขียนสีดังกล่าว 

 

และเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา นักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดี นายช่างศิลปกรรม จากกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เเละเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง ร่วมเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันสำรวจ "ภาพเขียนสีพบใหม่" ณ ถ้ำหินเพิง เทือกเขาโซ่ ผลจากการสำรวจพบภาพเขียนสีรูปบุคคล สัตว์ เเละลายเส้นเรขาคณิตกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วเพิงหิน

 

ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมาเคยพบภาพเขียนสี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณเพิงหิน เเละเพิงผา มาเเล้ว 3 แห่งในเขตอำเภอสีคิ้วเเละอำเภอสูงเนิน ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว 2 แห่ง คือ เพิงหินเขาจันทน์งาม และเพิงหินซับอนันต์ และที่อำเภอสูงเนิน 1 แห่ง คือบริเวณเพิงหินน้ำตกวะภูแก้ว จุดที่ 1 เเละ 2

 

ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการศึกษาร่องรอยภาพเขียนสี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เเละยังเป็นอีกของขวัญพิเศษ ในโอกาสเฉลิมฉลอง 555 ปี เมืองนครราชสีมา ของเราอีกด้วย 

 

ที่มา : กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา / ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะได้ลงพบปะกลุ่มแกนนำ และกล่าวปราศรัยเพื่อชี้แจงนโยบายของพรรคฯ ในพื้นที่ ต.ดอนแรด อ.รัตนบุรี โดยมีประชาชนเข้ารับฟังทั้ง 2 จุดจำนวนมาก

นางชนมณี กล่าวแนะนำตัว พร้อมระบุที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่ช่วงโรคโควิดระบาดหนัก จนมาถึงพี่น้องประสบภัยพิบัติน้ำท่วม

 

โดยประสานหน่วยงานราชการลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และหลังจากน้ำได้ลดลงอยู่ในสภาวะปกติตนก็ได้ทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วย ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ราคาข้าวตกต่ำ ปัญหาหนี้สินในระบบและนอกระบบ ปัญหาด้านสุขภาพและสาธารณสุข

 

"จึงประกาศขอเสนอตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย พร้อมนำเสนอนโยบายดีๆ ของพรรคฯ ซึ่งได้แก่ นโยบายเกษตรร่ำรวย รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน โดยประกันราคา ข้าวขาว 12,000 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท/ตัน มันสำปะหลัง กิโลกรัมละ 4 บาท และน้ำยางสด 62 บาท/กก., นโยบายพักชำระหนี้ 3 ปี หยุดจ่ายเงินต้นและปลอดดอกเบี้ย คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท, นโยบายลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ ฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท/เดือน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท/60 งวด และนโยบายด้านสาธารณสุข

 

โดยสร้างศูนย์ฟอกไตทุกอำเภอ/ศูนย์รักษามะเร็งทุกจังหวัด เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาท/เดือน" แม่ใหญ่จิ๋วกล่าว

 

นางชนมณี กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนสนับสนุนในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพื่อขออาสาเป็นปากเป็นเสียงทำงานเพื่อประชาชน และเป็นผู้แทนของพี่น้อง ลุงป้า หน้าอา ไปผลักดันงบประมาณต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นให้ถึงมือพี่น้องประชาชนให้สำเร็จ และตนขอปฏิญาณว่าจะขออยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณพ่อ คุณแม่ พี่ น้อง ลุงป้า น้า อา นำปัญหาของพี่น้องเข้าสู่สภาเพื่อได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

 

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยบนเวทีหาเสียง

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยบนเวทีหาเสียง ท่ามกลางประชาชนที่รอฟังอย่างคึกคัก ความตอนหนึ่งว่า การที่เราทุกคนมารวมตัวกันวันนี้ พิสูจน์แล้วว่าการเมืองคือ เรื่องของความเป็นไปได้

4 ปีก่อน หลายคนตั้งคำถามว่าการทำการเมืองแบบอนาคตใหม่ ที่ไม่มีหัวคะแนน ที่คนธรรมดามาลง ส.ส. จะทำให้เราได้ ส.ส.สักกี่คน แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น หรือการทำงานในสภาฯ ทั้งอภิปรายกระดุม 5 เม็ด หรือเรื่องตั๋วช้าง ที่ได้รับการยอมรับ พวกเราทำได้ เราพิสูจน์ว่าเขาพูดผิด ในการเลือกตั้ง 2562 ที่ขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ได้เกือบ 200,000 คะแนน เขต 1 ขอนแก่น ได้คะแนนมากกว่า 40% เจาะไข่แดงได้สำเร็จ

“เขากระทืบเราให้จมดิน แต่ไม่รู้เลยว่าเราคือเมล็ดพันธุ์ ยิ่งเหยียบยิ่งโต เขาเด็ดดอกไม้ได้ แต่หยุดฤดูใบไม้ผลิไม่ได้” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวต่อว่า 2 เดือนก่อนหน้านี้ หลายคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ที่แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ จะมาช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียง แต่พวกเราคือมิตรแท้ ผูกเสี่ยวกันไว้หมดแล้ว วันนี้เหลืออีกเพียงประมาณ 60 วันก่อนเลือกตั้ง อยากชวนให้ประชาชนเปลี่ยน 3ป เป็น 3P 'พิธา-ปิยบุตร-พรรณิการ์' เลือกตั้งทั้งที อย่าแค่เปลี่ยนรัฐบาล แต่ต้องเปลี่ยนประเทศ กาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

ไม่เหมือนเดิม คือ การเมืองดี เลือกก้าวไกลให้ถล่มทลาย ส่งลุงกลับบ้านเลี้ยงหลาน ปิดสวิตช์ 3ป ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไร ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 100 วันแรกทันที

ปากท้องดี คือ เปลี่ยนให้ขอนแก่นไม่เหมือนเดิม ตลอดเวลาที่ผ่านมาวิสัยทัศน์ของตนสำหรับภาคอีสานไม่เคยเปลี่ยน และนับวันยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ สรุปเป็น 3 คำนี้ คือ ‘ตัดตอน แต้มต่อ ตั้งตัว’

‘ตัดตอน’ คือ ตัดตอนทุนผูกขาด เราต้องเปลี่ยนแรงงานเป็นผู้ประกอบการ เป็นเถ้าแก่อีสานให้ได้ นโยบายก้าวไกล ขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท ผลักดันกฎหมายสุราก้าวหน้า สร้างงานซ่อมประเทศไปด้วยกัน

‘แต้มต่อ’ คือ หวย SME ให้แต้มต่อแก่ร้านรายย่อย เปลี่ยนใบเสร็จเป็นหวย ใครช่วยซื้อสินค้าจากรายย่อย ลุ้นได้เงินล้าน

‘ตั้งตัว’ คือกองทุนตั้งตัว ให้เงินทุน SME ตั้งตัวรายละ 1 แสนบาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน 2 แสนรายต่อปี

มีอนาคต คือ คนขอนแก่นต้องกำหนดอนาคตตัวเองได้ ซึ่งจะมีอนาคตได้ ต้องกระจายอำนาจ ปลดล็อกท้องถิ่น

นายพิธากล่าวว่า ขอให้ประชาชนเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น ของพรรคก้าวไกลทั้ง 11 คนเข้าสภาฯ ยืนยันไม่มีงูเห่าแน่นอน เพราะพรรคก้าวไกลมีเวลามากกว่าพรรคอนาคตใหม่ในการคัดสรรผู้สมัคร มีถึง 4 ด่าน คือ เขียนใบสมัคร สอบสัมภาษณ์ ผ่านหลักสูตรการเมือง และลงพื้นที่หาเสียง ขอให้ประชาชนไว้ใจ เลือกพิธาเป็นนายกฯ เราจะมีการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคตไปด้วยกัน

สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล จำนวน 11 เขต ประกอบด้วย
เขต 1 วีรนันท์ ฮวดศรี
เขต 2 อิทธิพล ชลธราศิริ
เขต 3 ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
เขต 4 วุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว
เขต 5 วิชัย อินทรประสิทธิ์
เขต 6 สานิตย์ พระโบราณ
เขต 7 รุ่งวิชิต คำงาม
เขต 8 อำนวย วิชาโคตร
เขต 9 วนัฏศนันท์ ธีรวรวรรณ
เขต 10 นิวัตร สระพรม
เขต 11 ณัฏฐณิชา สารบรรณ
 

พท.เตรียมลงพื้นที่หาเสียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน 3 จังหวัดอีสานใต้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 4-5 มี.ค.นี้ พรรค พท.เตรียมลงพื้นที่หาเสียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน 3 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 10.00 น. จะเริ่มเวทีแรก ที่อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

 

จากนั้นจะไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ก่อนไปเปิดเวทีที่ 2 เวลา 14.00 น. ณ ลานข้างสถานีรถไฟ อ.คง จ.นครราชสีมา และช่วงเย็นเวลา 17.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ สนามหน้าศาลากลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งสนามนี้เคยมีเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อสัปดาห์ก่อนเชื่อว่าพรรค พท.จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เก้าอี้จะเต็มทุกที่นั่ง นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า

 

ส่วนในวันที่ 5 มี.ค. เวลา 11.00 น.จะเปิดเวทีปราศรัย ณ ศูนย์ประสานงานพรรค พท. อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อนไปต่อเวทีปราศรัย ณ ตลาดเมืองใหม่ไอคิว อ.เมือง จ.สุรินทร์ สำหรับแกนนำที่จะร่วมขึ้นเวทีปราศรัยในครั้งนี้

 

นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.และผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งบัญชีรายชื่อและเขตในพื้นที่

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า จะมีการประกาศนโยบายการดูแลที่ดินทำกิน ระบบสาธารณูปโภค และราคาพืชผลเกษตร ตลอดจนถ่ายทอดกระบวนการและแนวคิดการทำงานของพรรค พท.ที่จะมาเสริมคุณภาพผลผลิต และการเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ

 

เพื่อช่วยเหลือนำพาพี่น้องประชาชนในการสร้างพืชผลเกษตรให้สอดคล้องความต้องการของตลาดโลก และหลังจากนี้จะมีเวทีพบปะพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดย น.ส.แพทองธาร จะเดินทางลงพื้นที่จนกว่าจะครบกำหนดคลอด รวมไปถึงองคาพยพของพรรค พท.ที่จะกระจายพบพี่น้องทั้งในเวทีระดับจังหวัดและระดับอำเภอ

 

 

กลุ่ม ปตท. เปิดงาน PTT Group Tech & Innovation Day 'Beyond Tomorrow' โชว์สุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมนำอนาคต

เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.66) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในพิธีเปิดงาน PTT Group Tech & Innovation Day ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Beyond Tomorrow: นวัตกรรม นำอนาคต’ โดยมี ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่ม ปตท. หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ และเอกชนชั้นนำร่วมในพิธี ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PTT Group Tech & Innovation Day ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 3 มี.ค. 66  เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญเพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยี และการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ตลอดจนสร้างการรับรู้ทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคต และหาโอกาสต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ทั้งจากภายในกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานภายนอก พร้อมทั้งผลักดันการสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 

1.นิทรรศการ แสดงผลงานทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่จาก กลุ่ม ปตท. ใน 7 ด้าน ประกอบด้วย Future Energy, Future Mobility, Life Science, AI, Robotics & Digitalization, Logistics & Infrastructure, Decarbonization และ Innovation Ecosystem ที่มีส่วนในการช่วยสร้างสรรค์และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม อาทิ การดูแลสิ่งแวดล้อมจากพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า สุขภาพและการแพทย์จากวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมจากระบบการขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน 

2.Tech Talk เวทีแลกเปลี่ยนแนวคิด และเทรนด์เทคโนโลยี นวัตกรรมที่น่าจับตาจากภาครัฐที่ขับเคลื่อนนโยบายและผู้นำด้านนวัตกรรมกว่า 23 หัวข้อ 

และ 3.Pitching Desk พื้นที่นำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท. กว่า 30 แบรนด์ ที่พร้อมให้นักลงทุนและผู้สนใจได้ร่วมพูดคุย ต่อยอดและขยายโอกาสการเติบโตสู่ธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงานไปด้วยกัน ตลอดจนจะได้พบกับสินค้านวัตกรรมที่พร้อมให้ช้อป ชิมจากกลุ่ม ปตท. อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก Innobic, น้ำเชื่อมหญ้าหวาน Natural Nxt, อาหารโปรตีนจากพืช NRPT, ไอศกรีมกะทิสดแท้ Kathisod Station และผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจาก MORE 

“กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตเป็นที่ยอมรับทั้งในภูมิภาคอาเซียนและเวทีโลก พร้อมขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตได้ต่อไป” นายอรรถพลกล่าวเสริม

กิจกรรมหลักส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว จ.กาฬสินธุ์

ที่บริเวณลานบันไดสวรรค์ วัดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.กาฬสินธุ์ กิจกรรมหลักส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว จ.กาฬสินธุ์ กิจกรรมย่อยวิ่งใจเกินร้อยพิชิตภูสิงห์

 

โดยมีนายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ นายสุรพล มิ่งชัย ท่องเที่ยวและกีฬา จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ปรมินทร์ ปัดทุมแฝง ผกก.ฝ่ายอำนวยการตัวแทน ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายกฤช โชติการณ์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

 

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มแถลงข่าว ได้ชมการแสดง “รำวงมหาดไทยเพื่อคนไทย อำเภอสหัสขันธ์” ซึ่งเป็นทีมรำวงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดรำวงมหาดไทยเพื่อคนไทย จ.กาฬสินธุ์ จากการคัดเลือก 18 อำเภอ ก่อนที่จะจบรายการด้วยการรำวงคองก้า ซึ่งเป็นชุดการแสดงประจำของกลุ่มสตรีแม่บ้านเขตเทศบาลตำบลโนนบุรี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ถนนไดโนโรด

 

โดยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสำเริง ม่วงสังข์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ และนายธนภัทร ณ ระนอง ปลัด จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับนางรำซึ่งเป็นตัวแทนจากส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มสตรี แม่บ้าน ร่วมกันฟ้อนรำด้วยความสนุกสนาน

 

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาจังหวัด ได้ชูนโยบาย 3 ร่ำรวยประกอบด้วยร่ำรวยวัฒนธรรม ร่ำรวยน้ำใจ และร่ำรวยสุขภาพ ภายใต้กรอบการทำงาน 3 ใจคือเข้าใจ ไว้ใจกันและร่วมใจกันพัฒนากาฬสินธุ์ เพื่อนำพาประชาชนมีความอยู่ดีกินดีและมีความสุข โดยในปี 2566 จ.กาฬสินธุ์ได้เริ่มเปิดบ้าน เปิดเมือง ต้อนรับความร่ำรวย ด้วย 3 ใจมาตั้งแต่การจัดงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติ “โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท” ที่อ.เขาวง ต่อเนื่องด้วยการจัดงานบุญคูณลานทุกอำเภอทั้ง 18 อำเภอ และต่อด้วยการจัดงานมหกรรมโปงลาง แพรวา และงานกาชาด จ.กาฬสินธุ์ ประจำปี 2566 ซึ่งผลตอบรับมีมากเกินความคาดหมาย

 

ทั้งในส่วนของการจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์โอทอปและจำนวนคนมาเที่ยวงาน

“หลังจากเสร็จสิ้นการจัดงานกาชาดฯ จ.กาฬสินธุ์ ดังกล่าว ยังจะมีการจัดงานประเพณีเทศกาลมาฆปูรณมีบูชา ทะเลธุงอีสาน ระหว่างวันที่ 3-12 มีนาคม 2566 ที่พระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง อ.กมลาไสย ในขณะที่วันที่ 11-12 มีนาคม 2566 ก็ยังจะได้กิจกรรมวิ่งใจเกินร้อยพิชิตภูสิงห์ ที่บริเวณลานบันไดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ต่อเนื่องความร่ำรวยสุขภาพ ร่ำรวยวัฒนธรรม ร่ำรวยน้ำใจ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนหลังเปิดเมืองเต็มรูปแบบอีกครั้งหนึ่ง จึงขอเชิญชวนนักวิ่ง คนรักสุขภาพ ประชาชน นักท่องเที่ยว มาร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน” นายศุภศิษย์กล่าว

 

ด้านนางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์กล่าวว่า พื้นที่ อ.สหัสขันธ์ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น สักการะพระพรหมภูมิปาโล ชมทัศนียภาพเชิงธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาบนเขาภูสิงห์ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สิรินธร วัดพุทธนิมิตภูค่าว สะพานเทพสุดา เป็นต้น สามารถเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวกับอำเภอใกล้เคียงรอบด้าน

 

จึงมีความพร้อมด้านแหล่งอาหารและที่พัก รับรองมาร่วมกิจกรรมวิ่งใจเกินร้อยพิชิตภูสิงห์ได้รับความประทับใจ ทั้งนี้ สำหรับนะยะทางการวิ่งมี 2 คือ FUN RUN 4.2 กิโลเมตร และ Mini marathon 14.2 กิโลเมตร โยวันที่ 11 มี.ค. 66 ลงทะเบียนรับบัตรวิ่ง และเปิดกิจกรรมชิม ช็อป ใช้ วันที่ 12 มี.ค.66 กำหนดเข้าจุด Start วิ่งเวลา 05.00 น. ระหว่างเส้นทางวิ่ง มีจุดพยาบาล 9 จุด รับรองความปลอดภัยของนักวิ่งทุกคน

 

ขณะที่นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการจัดกิจกรรมวิ่งใจเกินร้อยพิชิตภูสิงห์ในครั้งนี้ ได้ร่วมกับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน สินค้าโอทอป ผู้จำหน่ายอาหาร และผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายโครงการโคกหนองนาโมเดล นำสินค้าภาคการเกษตรมาจัดนิทรรศการและจำหน่ายในงาน

 

นอกจากนี้ยังจะมีกุ้งแม่น้ำ อาหารแปรรูปหลากหลายรายการ มาจัดจำหน่าย รองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชม ช็อป ใช้อย่างประทับใจอีกด้วย สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตั้งเป้ามีเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท

 

 

เขาเด่นตรงไหน บิ๊กตู่ ฟาด เศรษฐา ประเทศไม่ใช่ธุรกิจ

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร รสทช.ว่า เป็นบรรยากาศแห่งมิตรไมตรี และในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและนโยบายพรรค ได้มีโอกาสพบปะสมาชิกหลายคนหลายภาคและเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาสวมเสื้อให้

 

ถือเป็นเกียรติให้กันและกัน และมีความเชื่อมั่นในบรรดาสมาชิกของพรรคที่มีหลากหลาย หลายกลุ่ม หลายวัย เพราะเราต้องการเดินหน้าทำงานให้คนทุกช่วงวัย รวมถึงกลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่มีปัญหาต่างๆ เราต้องทำให้ทุกคนได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานในอนาคต ขอขอบคุณบรรดาสมาชิก ส.ส. และขอบคุณหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และ ผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำให้มีวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่มีความสุข

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคบอกแล้วว่ามีความพร้อม ทันเวลาอย่างแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด โดยพรรครวมไทยสร้างชาติจะส่งให้ครบ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งเป้าได้ ส.ส.อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตั้งเป้า แล้วไม่ได้ตามเป้าแล้วจะไปตั้งทำไม เพราะเราเชื่อมั่นว่าจะได้กว่าเป้า ส่วนเป้าที่วางไว้จะเป็นเท่าไหร่นั้นจะยังไม่บอก ทุกคนต่างหวังเช่นนั้น

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการจะเป็นรัฐบาลได้ ส.ส. จำนวน 250 เสียงขึ้นไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลกติกาก็คือจะต้องได้คะแนนเสียงสูง และต้องมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสียงมากเสียงน้อยก็จะต้องขึ้นอยู่กับบทบาทการพูดคุยต่อไปว่าเป็นรัฐบาลกันอย่างไร เพราะครั้งที่แล้วก็เป็นแบบนี้ ก็ผ่านมาแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีทีมเศรษฐกิจมาช่วยงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจนั้นมี แต่เขาไม่ให้เอ่ยชื่อ เขาขออยู่เบื้องหลัง และเสนอเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา ในขณะที่ตนเองก็มีทีม การทำงานเศรษฐกิจไม่ใช่ว่าจะเก่งอยู่คนเดียวแล้วบอกว่าสุดยอดแน่นอน อย่างนั้นไม่ใช่ กลุ่มเศรษฐกิจของเรามีอยู่ทุกด้านและมีข้อเสนอเพื่อนำไปปรึกษาในคณะทำงานก่อนที่จะนำมาเข้ามาในระบบของรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าได้

 

ดังนั้นการจะเอานักเศรษฐกิจที่เก่งในเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเพียงคนเดียวแล้วบอกว่าเก่งในเรื่องการบริหารประเทศ คิดว่ามันไม่ใช่

 

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะสู้พรรคอื่นได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แน่นอนๆ

ถามว่า ในวันเดียวกันนี้พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีตัวชูอย่างนั้นบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ "

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า จำคำพูดผมเอาไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจหรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้าใจหรือไม่เป็นของประเทศ ฉะนั้นต้องหาคนที่เหมาะสม และการทำงานก็มีระบบและขั้นตอนมากมายไปหมด ต้องมีคณะกรรมการ มีคนที่เก่งเศรษฐกิจ ด้านการเงิน ด้านการธนาคาร การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และทั้งหมดต้องมาคุยด้วยกัน ไม่ว่าใครจะเก่งด้านใด เมื่อสั่งแล้วไปไม่ได้ หรือติดกฎหมายก็ไปไม่ได้อีกอยู่ดี เราก็ต้องแก้ไขตรงนี้

 

แล้วรัฐบาลชุดหน้าจะต้องทำแบบนี้ เข้าใจหรือยัง เลิกถามเสียทีเถอะถึงหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเนี่ย"

P.M.2.5 ปกคลุมไปทั่วบริเวณ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั่วทั้งเขตเทศบาลนครขอนแก่นและในหลายอำเภอของ จ.ขอนแก่น เช้าวันนี้ยังคงมีฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ P.M.2.5 ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ดูได้จากสภาพท้องฟ้าโดยทั่วไปมีปริมาณฝุ่นหนาแน่นจนคล้ายกับเมฆหมอกในยามเช้า

 

ซึ่งจากการวัดระดับค่าฝุ่น P.M.2.5. เช้าวันนี้โดยเฉพาะภายในเขตมหาวิทยาลัยขอนแก่น วัดระดับได้ที่ 154 AQI หรือในระดับสีแดงซึ่งไม่ถูกสุขภาพ ทำใหประชาชนส่วนใหญ่ต่างยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันฝุ่น ในขณะที่บางพื้นที่มีการพ่นละอองน้ำเข้าไปในชั้นอากาศเพื่อสลายฝุ่นรวมไปถึงการเร่งฉีดน้ำลงพื้นถนนเพื่อล้างฝุ่นไม่ให้คละคลุ้งไปมากกว่านี้

 

นายคมสันต์ จิระสถิตย์ อายุ 50 ปีชาว จ.ขอนแก่นกล่าวว่า ปริมาณฝุ่นในเขต จ.ขอนแก่น มีมาอย่างต่อเนื่องจะลดลงบ้างเฉพาะในช่วงที่มีลมกรรโชกแรงพัดพาฝุ่นไป อย่างเช้าวันนี้ก็จัดอยู่ในระดับสีแดง ซึ่งส่งผลอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และมีปริมาณฝุ่นที่มองเห็นได้ชัด

 

ซึ่งหากมายืนมองในที่สูง โดยเฉพาะภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นหากมิงลงไปในเขตเมืองฝุ่นละอองขนาดเล็กจะคละคลุ้งไปทั่ว เช่นเดียวกันกับเมื่ออยูในเมืองและมองมาที่ มข.ก็จะเห็นปริมาณฝุ่นที่หนาแน่นเช่นกัน ดังนั้นจึงได้กำชับให้คนในครอบครัวได้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย และการเป็นส่วนหนึ่งในการปราบฝุ่นด้วยฉีดน้ำลงบนถนนเพื่อชะล้างและพ่นละอองน้ำรอบบริเวณบ้านเพื่อสลายฝุ่น อย่างไรก็ตามวันนี้ค่าฝุ่นของประเทศทั้งที่เชียงใหม่ และกรุงเทพฯมีปริมาณฝุ่นที่มาก จึงอยากให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งปราบฝุ่นเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าฝุ่น P.M.2.5 ของขอนแก่นมากไปกว่านี้

 

ขณะที่นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า มาตรการปราบฝุ่นในเขตเมืองนั้น งานป้องกันฯได้กำหนดแผนในการชะล้างสิ่งปฎิกูลอย่างต่อเนื่องโดยมีการจัดรถน้ำพ่นละอองน้ำในชั้นบรรยากาศและการกำหนดแผนล้างถนนและล้างฝุ่นในถนนเส้นทางสายต่างๆภายในความรับผิดชอบในเขตเทศบาลฯอย่างต่อเนื่องทุกวัน

 

ขณะเดียกันยังคงมีการขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาทุกชนิดในระยะนี้และร่วมกันเป็นจิตอาสาร่วมกันพ่นละอองน้ำหรือฉีดน้ำปะพรมถนนเพื่อที่จะร่วมกันสลายฝุ่นภายในบ้านของตนเองหรือในย่านชุมชนจนนำไปสู่การลดปริมาณฝุ่นในเขตชุมชนได้มากยิ่งขึ้น

 

 

1 มีนาคม พ.ศ. 2433 รัชกาลที่ 5 ประกาศพระบรมราชโองการ ให้สร้างทางรถไฟสายแรก กรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมา

วันนี้ เมื่อ 133 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศพระบรมราชโองการ ให้สร้างทางรถไฟตั้งแต่กรุงเทพ ฯ ถึงเมืองนครราชสีมาเป็นทางรถไฟสายแรกในราชอาณาจักรไทย

เมื่อ พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งในเครื่องราชบรรณาการนั้นมีรถไฟเล็กจำลองย่อส่วนจากรถจักรไอน้ำของจริงที่ใช้ในเกาะอังกฤษ ประกอบด้วยหัวรถจักรไอน้ำชนิดมีปล่องสูงและรถพ่วงครบขบวน ซึ่งเป็นที่สนพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในขณะนั้น แต่ตลอดรัชสมัยของพระองค์ยังไม่มีการสร้างทางรถไฟเกิดขึ้น เพราะภาวะเศรษฐกิจของราชอาณาจักรสยามในขณะนั้นยังอยู่ในฐานะที่ไม่มั่นคงและยังมีจำนวนประชากรน้อยอยู่

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงได้รับแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากการทรงทอดพระเนตรการสร้างทางรถไฟในชวาและทรงประทับรถไฟในอินเดีย พระองค์ทรงเห็นว่ารถไฟจะทำให้ราชอาณาจักรสยามมีความเจริญยิ่งขึ้น และจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับราชอาณาจักรได้ ซึ่งในขณะนั้นราชอาณาจักรสยามกำลังถูกกดดันจากชาติตะวันตกในการล่าอาณานิคม ดังนั้นการสร้างทางรถไฟจึงได้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2433 โดยมีประกาศพระบรมราชโองการสร้างทางรถไฟสยามตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงนครราชสีมา ดังมีข้อความแสดงพระราชดำริบางดอนว่า

"การสร้างหนทางรถไฟเดินไปมาในระหว่างหัวเมืองไกล เป็นเหตุให้ความเจริญแก่บ้านเมืองได้เป็นอย่างสำคัญอันหนึ่ง เพราะทางรถๆฟอาจจะชักย่นหนทางหัวเมืองซึ่งตั้งอยู่ไกลไปมาถึงกันยากให้กลับเป็นหัวเมืองใกล้ไปมาถึงกันได้โดยสะดวกเร็วพลัน การย้ายขนสินค้าไปมาเป็นการลำบาก ก็สามารถจะย้ายขนไปมาถึงกันได้โดยง่าย เป็นการเปิดโอกาสให้อาณาประชาราษฎร์ มีทางตั้งการทำมาหากินกว้างขวางออกไปและทำทรัพย์สมบัติกรุงสยามให้มากมียิ่งขึ้นด้วย ทั้งเป็นคุณประโยชน์ในการบังคับบัญชา ตรวจตราราชการบำรุงรักษาพระราชอาณาเขตให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขได้โดยสะดวก"

ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนากรมรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกในสังกัดกระทรวงโยธาธิการ จากนั้นในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ไปทรงขุดดินถมทางรถไฟหลวงสายแรก

สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมาได้แล้วเสร็จบางส่วน ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีพระอัครราชเทวี ไปทรงประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายแรกในราชอาณาจักร พระองค์ทรงตอกหมุดตรึงรางรถไฟกับไม้หมอนและเสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระที่นั่งไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Esan Time Thailand
Take Me Top