Saturday, 20 April 2024
CRIMES

ปกครอง อ.ธาตุพนม นรข.เขตนครพนม บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดยาบ้า 8,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 นายปรัตถกร บุสาวรรณ นายอำเภอธาตุพนม มอบหมายให้ฝ่ายปกครองอำเภอธาตุพนม ร่วมกับ นรข.เขตนครพนม โดย สน.เรือธาตุพนม และร้อย. ร.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ชุดสุนัขทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ทำการจับกุม นายกิตติพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี อยู่หมู่ 3 ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 มัด (ประมาณ 8,000 เม็ด), เรือกีบเพลายาวสีดำแดง จำนวน 1 ลำ, พร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย ยี่ห้อ HONDA GX 270 จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ HUAWEI สีดำ จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้ที่ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

เบื้องต้นได้ทำการนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ สน.เรือธาตุพนม เพื่อทำการตรวจนับของกลาง และทำบันทึกจับกุม และนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : https://www.77kaoded.com/news/tawee/2396579

ด่วน!!! คนร้ายบุกแทงนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ในร้อยเอ็ดดับ ขณะลงจากรถตู้รับ-ส่ง

เกิดเหตุระทึกขวัญ คนร้ายถือมีดบุกกระซวกแทงนักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านเล้าวิทยาคารขณะกำลังจะลงจากรถตู้รับ-ส่ง ครูชายต้องช่วยกันล็อกตัว หวั่นคลุ้มคลั่งทำร้ายคนอื่นต่อ ด้านนักเรียนหญิงอาการสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เผยชายคนร้ายเป็นญาติกับนักเรียนที่ถูกแทงและเพิ่งออกจากคุกมาได้แค่ 3 วัน

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญ คนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อถือมีดบุกแทงนักเรียนในโรงเรียนบ้านเล้าวิทยาคาร ตำบลหนองกองแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ สร้างความหวาดผวาแก่นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนเป็นอย่างมาก

หลังเกิดเหตุ ดร.ลัดดาวัลย์ สืบจิต ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชาย ช่วงเกิดเหตุ คือเวลาที่ครูเวรกำลังยืนรอรับเด็กนักเรียนที่กำลังลงจากรถรับ-ส่งของโรงเรียน พอรถจอด เด็กนักเรียนกำลังจะทยอยลงรถ ปรากฏว่า ชายคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ได้จอดรถแล้ววิ่งปรี่เข้าไปที่รถรับส่งนักเรียน แล้วจับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ไปแทง 1 คน ครูเห็นเหตุการณ์จึงรีบไปขอความช่วยเหลือจากคนในชุมชน

รวบหนุ่มขนยาไอซ์ ใช้ห้องน้ำโรงเรียนเป็นที่พักยา ได้ของกลาง 31 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท!!

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการบุกจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ได้ของกลางยาไอซ์ จำนวน 31 กิโลกรัม (ถุงละ1กิโลกรัม 31 ถุง) มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

โดยเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 ชุดสืบ สภ.เมืองมุกดาหาร ร่วมน่วยงานความมั่นคงสามารถสกัดจับ ผู้ต้องหาคือนายศุภกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ใช้รถยนต์กระบะลักลอบขนยาไอซ์ จำนวน 31 กิโลกรัมที่ซุกซ่อนไว้ที่ห้องน้ำของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลคำอาฮวน

สืบเนืองจาก เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. พ.ต.ท.สุทธิศักดิ์ สอนสะอาด หัวหน้าชุดปฏิบัติการยาเสพติด สภ.เมืองมุกดาหาร กวดขันปราบปรามจับกุม ยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังหน่วยบูรณาการในพื้นที่ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายศุภกรอายุ 25 ปี ขอสงวนนามสกุล พร้อมด้วยของกลาง ประกอบไปด้วย

1.) ยาไอซ์ จำนวน 31 กิโลกรัม (31 ถุง)

2.) รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 7770 มุกดาหาร จำนวน 1 คัน

3.) โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO จำนวน 1 เครื่อง พร้อมกับ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร TMB ของ นายศุภกร ฯ จำนวน 1 เล่ม

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่นกาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แถลงผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 1 เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565 สร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย "STRONG จิตพอเพียง ต้านทุจริต" ภารกิจด้านปราบปรามการทุจริตตรวจสอบเบื้องต้น 97 เรื่อง ไต่สวน 41 เรื่อง พร้อมมูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่น 2 ราย

ณ ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ กันแถลงผลการดำเนินงานในรอบไตรมาสที่ 1 เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2565 ภารกิจด้านการป้องกันการทุจริต สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายเฝ้าระวังการทุจริตภายใต้โครงการ "STRONG จิตพอเพียง ต้านทุจริต" การนิเทศติดตามการขับเคลื่อนการประเมิน ITA ของหน่วยงานภาครัฐ โดยมีส่วนราชการ ภาคประชาชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและรับฟังผลการดำเนินงานอย่างพร้อมเพรียง

นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามการทุจริต มีเรื่องตรวจสอบเบื้องต้น 47 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 8 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ 89 เรื่อง และเรื่องไต่สวนอยู่ในความรับผิดชอบ 41 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 7 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 34 เรื่อง และเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดและรายงานความเคลื่อนไหวคดี จำนวน 4 เรื่อง ของอดีตนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 2 ราย ที่ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ใช้อำนาจโดยมิชอบ เรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือในการบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานจ้าง และอนุมัติจ่ายเงินขาดสะสมเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการ  ซึ่งการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด

(มุกดาหาร) ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร แถลงการณ์ผลการจับกุมแก๊งค้ายาบ้า 2 ราย 418,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก

(21 ธ.ค. 65) เวลา 10.30 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร, พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผบก.ก.จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ.สงกรานต์ สันหกรณ์ รอง ผบก. พร้อม พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวนฯ และชุดปฏิบัติการฯ กองกำกับการสืบสวน เฝ้าติดตาม สืบสวน ตั้งด่านเส้นทางในพื้นที่ การสะกดรอย ซุ่มสังเกตการณ์ตลอตแนวแม่น้ำโขงเรื่อยมา

จนกระทั่ง จากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 20.00 น. ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีการลำเลียงยาเสพติดผ่านในพื้นที่ จว.มุกดาหาร จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวนมาก จากเส้นทางถนนบ้านหนองหอย ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร มาทางสี่แยกโพนทราย ต.โพนทราย อ.มือง จ.มุกดาหาร โดยรถคันที่ใช้ขนยาบ้าเป็นรถยนต์กระบะแคป ยี่ห้ออีซูสุ รุ่นดีแม็ก สีดำ ติตแผ่นป้ายทะเบียน หน้า-หลัง 2ฒล 5739 กทม.

เมื่อชุดจับกุมทราบ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ศรุตฯ พร้อมพวกวางแผนเพื่อจับกุม จึงได้จัดวางกำลังบริเวณสี่แยกโพนทราย กระทั่งเวลาประมาณ 19.16 น. รถของเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม มองเห็นรถทะเบียน 2 ฒล 5739 กทม. จอดติดไฟแดงที่แยกโพนทราย จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ทำการขับหลบหนี โดยขับย้อนกลับไปทางบ้านแก่นเต่า

(กาฬสินธุ์) ยุติธรรมกาฬสินธุ์ เร่งเดินหน้าช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

(20 ธ.ค.65) คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย ให้ความช่วยเหลือค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญาไตรมาสสุดท้ายของปี จำนวน 21 ราย วงเงิน 382,944 บาท พร้อมเดินหน้าจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ประจำสถานีตำรวจ ตามนโยบายยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน ณ ห้องประชุมผาเสวย ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2

ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ (กพยจ.) ได้จัดประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมจังหวัด ครั้งที่ 4/2565, คณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือประจำจังหวัด (กองทุนยุติธรรม) ครั้งที่ 10/2565 และคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย ครั้งที่ 10/2565 โดยมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายประหยัด ไม้แพ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ ปฏิบัติหน้าที่ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัด กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะดังกล่าว เพื่อให้ทราบข้อมูล ผลการดำเนินงาน การพิจารณาและให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม โดยมีส่วนราชการกระบวนการยุติธรรม เช่น เรือนจำจังหวัด, อัยการจังหวัด, คุมประพฤติ, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, บังคับคดี, ยุติธรรมจังหวัด รายงานผลการดำเนินงานในรอบไตรมาสที่ผ่านมา

PCT ถล่มร้านปืนออนไลน์ ยึดอาวุธปืนสงครามและกระสุนปืนจำนวนมาก พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง

ตามนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กวดขันจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีออนไลน์ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดที่เข้าถึงได้ง่าย เป็นการมอมเมาประชาชน และบ่อนทำลายชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 469/2565 ลง 21 ต.ค.2565 เรื่อง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และมอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ฯ จึงมีคำสั่งกำชับให้กวดขัน จับกุมปราบปรามการกระทำความผิดทางออนไลน์ทุกประเภท รวมถึงการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับรับจ้างเปิดบัญชี (บัญชีม้า)

โดยในห้วงของการระดมที่ผ่านมา ศปอส.ตร.ได้มีการระดมจับกุมผู้กระทำความผิดที่มีหมายจับเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคม 2565 ปรากฏผลการที่น่าสนใจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดที่มีหมายจับได้จำนวนมาก กล่าวคือ

1.) หมายจับในความผิดฐานฉ้อโกง จำนวน 616 ราย ผู้ต้องหา 595 คน

2.) หมายจับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน จำนวน 410 ราย ผู้ต้องหา 384 คน

3.) หมายจับความผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 จำนวน 28 ราย 22 คน

และ 4.) ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จำนวน 873 ราย ผู้ต้องหา 830 คน รวมจับกุมได้ทั้งสิ้น 1,927 ราย ผู้ต้องหา 1,831 คน

ในการแถลงนี้เป็นผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 นำโดย พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงค์ ผบก.ส.2 บช.ส./หน.ชป.4 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายร่วมกันเปิดเวปซื้อขายอาวุธปืนเถื่อนและกระสุนปืน ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงสื่อและสั่งซื้อทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำกระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดชลบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมาวันที่ 15 ธ.ค.65 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ฯ, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ, พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค./ผู้ช่วย ผอ.ฯ/หน.ด้านปฏิบัติการฯ และ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ.ตร./หน.ด้านข่าวสารฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ชุดที่ 4 (PCT ชุดที่ 4) นำโดย พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ ผบก.ส.2/หน.ชป.ฯ, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รอง ผบก.ส., พ.ต.อ.คมสพัสส์ ทองคำนิธิวิรากุล ผกก.ฯ, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.ฯ และ พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล ผกก.ฯ พร้อมด้วย จนท.ศปอส.ตร.ชุดที่ 4 เข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว

โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายมีการกระทำผิดและหลบซ่อนตัวอยู่ในหลายพื้นที่ได้แก่ อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่, อ.เมือง จว.สุรินทร์ และ อ.บ้านบึง จว.ชลบุรี จึงได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติหมายค้นและหมายจับต่อศาลอาญาเพื่อเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ ผลการปฏิบัติสามารถตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ภายใต้ชื่อ “LOS SANTOS” ได้ดังนี้

ตำรวจ ปคบ. บุกค้นร้านแต่ง จยย.เป้าหมาย 8 จุดใน 7 จังหวัด เพื่อปราบท่อซิ่งสายแว้น เตือนความผิดโทษถึงคุก และปรับอีกเป็นล้าน!

วันที่ 16 ธ.ค.พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ.พ.ต.อ.วริษฐ์ ปทุมารักษ์ ผกก.3 บก.ปคบ.พ.ต.ท.เทพรัตน์ ศุกระกาญจน์ พ.ต.ท.ธงฉาน ตันบุญเจริญ รอง ผกก.3 บก.ปคบ. แถลงผลตรวจค้นร้านจำหน่าย, ดัดแปลง และตกแต่งรถ จยย. เป้าหมาย 8 จุด ในกรุงเทพฯ, พระนครศรีอยุธยา, นนทบุรี, นครราชสีมา, ปทุมธานี, กาญจนบุรี และราชบุรี

ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ ที่ไม่มี มอก. จำนวน 537 ใบ และยังตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ลักลอบผลิตท่อไอเสียอีกเป็นจำนวนมาก มูลค่ากว่า 1,500,000 บาท พล.ต.ต. อนันต์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่า ร้านเป้าหมายทั้งหมดมีความผิดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คือ การทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งมี พ.ร.ก. ที่กำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต นั้นต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บก.ปคบ. จับและตรวจยึดวัตถุอันตรายทางการเกษตรโดยผิดกฎหมาย

วันที่ 14 ธ.ค.2565 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบกปอท.รรท.ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ รอง ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ปคบ. นำโดย พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ.พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ต.จำรูญ คำมา สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ปคบ.ร่วมกันตรวจยึดผลิตภัณฑ์สารกำจัดวัชพืช บรรจุในถังพลาสติก ทรงกลม สีน้ำเงิน ขนาดบรรจุ 200 ลิตร จำนวน 5 ถัง รวมปริมาณ 900 ลิตร ไม่มีฉลากวัตถุอันตรายและทะเบียนวัตถุอันตราย ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ.2535

ด้วยเจ้าพนักงานตำรวจ ชป.2 กก.2 บก.ปคบ. ได้ตรวจสอบแอพพลิเคชั่น Feacbook ชื่อเพจ ซื้อ-ขายพันธุ์มันสำปะหลัง พบว่ามีสมาชิก ชื่อบัญชีผู้ใช้ 'องอาจ ตระกูลสุนทรชัย' มีการโพสต์ขายสินค้าวัตถุอันตรายทางการเกษตร ระบุ "เกษตรกรท่านใดที่กำลังอยากลดต้นทุน เชิญครับ ยาฆ่าหญ้า 'กลูโฟซิเนต' แกลลอน 5 ลิตร 600 บาทครับ ค่าส่งแกลลอนละ 88 บาท สนใจติดต่อ 088-5959926 เกษตรกรเชิญทางนี้ครับ เรามีบริการส่งให้ถึงหน้าบ้าน ไม่มีมัดจำ ไม่มีล่วงหน้า ของถึงค่อยโอนจ่ายเงิน สนใจทักแชทสอบถามก่อนได้ครับ" ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535

เจ้าพนักงานตำรวจชุดดังกล่าว จึงได้ให้สายลับติดต่อกับเฟซบุ๊กดังกล่าวและสนทนาผ่าน
Messenger เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าสารกำจัดวัชพืช สารพาราควอต บรรจุในถังพลาสติก ขนาดบรรจุ 200 ลิตร จำนวน 1 ถัง และสารกลูโฟซิเนต บรรจุในถังพลาสติก ขนาดบรรจุ 200 ลิตร จำนวน 4 ถัง โดยสารกลูโฟซิเนต ในราคาถังละ 23,000 บาท สารพาราควอต ในราคาถังละ 25,000 บาท แจ้งว่ามีสารกลูโฟซิเนต จำนวน 6 ถัง และสารพาราควอตมี จำนวน 1 ถัง

ตำรวจ ปส. ระดมกำลังค้น 30 จุด ในภาคอีสาน ยึดทรัพย์เครือข่ายยาฯ 2,500 ล้านบาท

วันที่ 14 ธ.ค. 65 ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ประกาศจะปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อจะตัดวงจรของเครือข่ายยาเสพติด โดยยึดอายัดทรัพย์สินตลอดจนการป้องกันและปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด และพื้นที่ล่อแหลม

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) /ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 รับนโยบายและได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เคยถูกจับกุมไปแล้วว่ามีความเคลื่อนไหวหรือไม่ และ มีเครือข่ายหน้าใหม่หรือไม่ สืบเนื่องการจับกุม นายวัฒนา ศรีวิไล พร้อมของกลางยาบ้า 1,976,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าจึงขยายผลโดยใช้ข้อมูลจาก Big Data จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน และพบว่าเครือข่ายนี้มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสานลงสู่พื้นที่ภาคใต้ แล้วหลายครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 จับกุมเครือข่ายได้อีก 2 รายคือ น.ส.รวิวรรณ วรรณฟัก ได้ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเพ็ญจันทร์ ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จว.สกลนคร และจับกุมตัว นายจักรพงษ์ คำชนะ ได้ที่หน้าหอพักพลอยสุข อ.เมือง จว.นนทบุรี โดยมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยแฝงด้วยการเป็นธุรกิจรับจ้างขนส่งสินค้าทั่วไประหว่างประเทศและในประเทศ 

ลุยอุดรธานี!! เร่งบูรณาการช่วยเหยื่อถูกหลอกไปทำงานญี่ปุ่น พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 8 ธันวาคม 2565 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร “น.1 บึ่งทุกที่” ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อประชุมหารือแก้ปัญหากรณีคนไทยถูกหลอกลวงโดยอ้างว่าสามารถพาไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามฝ่าย ฝ่ายตำรวจนำโดย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.อุดรธานี และ ผกก.ท้องที่เกิดเหตุ ฝ่ายกระทรวงแรงงาน นำโดย นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และมีตัวแทนผู้เสียหาย 6 คน เข้าร่วมประชุมด้วย ณ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2565 ได้มีผู้เสียหายรวม 27 ราย มาร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกหลอกลวงจากนายหน้าจัดหางานผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย อ้างว่าสามารถพาไปทำงานประเทศญี่ปุ่นได้ จนทำให้แรงงานไทยหลงเชื่อสูญเงินค่าบริการจัดหางานไปแล้วรายละ 20,000 - 70,000 บาท และล่าสุดเพิ่มเป็น 69 ราย และต่อมาวันที่ 14 พ.ย.65 ประธานกรรมาธิการการแรงงานได้มอบหมายให้ผมในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดหางานฯ ดำเนินการตรวจสอบประสานผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดดำเนินการจนสามารถออกหมายจับเมื่อวันที่ 18 พ.ย.65 และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 ราย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 และอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีและเพื่อให้การดำเนินคดีและการช่วยเหลือเหยื่อเป็นไปด้วยความรวดเร็วเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และในวันนี้อนุกรรมาธิการด้านการจัดหางานฯ จึงได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนให้บังเกิดผลดังกล่าวโดยเร็ว

รวบตัว 6 แอดมิน เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์บอลโลกเมืองอุบลฯ

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ.8)/หน.ชป.2 ศปอส.ตร.สั่งการ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.กก.3 บก.ปคม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. นำกำลังจับกุม นายภูวนัย, น.ส.รุ่งทิวา, นายชัชวาล, นายกิตตินันท์,นายจตุพลและ น.ส.ปิยะนุช (ทั้งหมดสงวนนามสกุล) พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ​​จำนวน 6 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ PC​ 5 เครื่อง, หน้าจอ Monitor ​​​12 จอ, ซิมการ์ด ​​​​จำนวน 50 อัน, เงินสด ​​​400,000 บาท และสมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม ​จำนวน 20 ชุด

มุกดาหาร-ตำรวจบุกจับ 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดพร้อมของกลางไอซ์ 9 กก.ยาบ้า 1,374 เม็ด พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอกและกระสุน

ตำรวจนำหมายค้นบุกค้นบ้านเอเยนต์ค้ายาเสพติดรวบผู้ต้องหาได้ 2 รายพร้อมของกลางเป็นยาเสพติดตรวจค้นพบยาไอซ์ หนัก 9 กก.ยาบ้า 1,374 เม็ด สอบสวนผู้ต้องหารับว่า มีเครือข่ายจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านขนข้ามโขงข้ามมาส่งให้ โดยมีนายวรญาณบุญราช ผู้ว่าราชการ จ.มุกดาหาร พลโทสวราชย์ แสงผล แม่ทับภาค 2 และพลตำรวจตรี ชัชชัย วงศ์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.มุกดาหาร ร่วมแถลงข่าวที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 06.00 น. กก.สส.ภ.จว.มุกดาหาร ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวน ภ.จว.มุกดาหาร หลังสืบทราบว่าที่บ้านเลขที่ 46/6 ถนนสุทธิมรรค ต.ศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหารมีพฤติกรรมเปิดบ้านค้ายาเสพติดขายปลีกและขายส่ง จึงขอหมายค้นของ ศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ ค.125/2565 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ก่อนสั่งการ ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เดชา เวฬุวนารักษ์ สว.ฯ ปรก.กก.สส.ภ.จว.มุกดาหาร พร้อมพวก ได้ทำการเข้าตรวจค้นตามหมายค้นของ ศาลจังหวัดมุกดาหาร พบนายอรรณพ หรือเบิร์ด คูสกุล อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของบ้านเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นก่อนเข้าทำการตรวจค้นจากการตรวจค้นภายในบ้านได้พบนายธนากร ขันติยะ อายุ 37 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 80/5 ถนนสุทธิมรรค ต.ศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร อยู่ภายในบ้าน

ตม.ชัยภูมิ สนองนโยบายป้องกัน ปราบปรามต่างด้าวหลบซ้อน รวบอินเดียแอบลักลอบอยู่ในราชอาณาจักร เกินกว่า 974 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.กำกับดูแลงานสืบสวน มีคำสั่งให้ทุกหน่วยในสังกัด สตม.ดำเนินการออกระดมกวาดล้างอาญากรรมประเภทต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (OVER STAY) รวมถึงสืบสวนหาข่าวคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง การกระทำความผิดที่มีโทษทางอาญา, ผู้ที่มีหมายจับศาลไทยหรือหมายจับศาลต่างประเทศ

รวบแล้ว ‘ตัวตึงนครพนม’ หลอนยาบ้า ซิ่งรถปล่อยมือหวาดเสียว โดนตั้ง 10 ข้อหาหนัก

ตามที่ปรากฎในข่าวกรณีชายวัยกลางคนขับขี่รถจักรยานยนต์ปล่อยมือกางแขนเซไปมาบนท้องถนน สร้างความอันตรายบนท้องถนน ล่าสุดตำรวจตามรวบตัวได้แล้ว โดนตั้ง 10 ข้อหาหนัก

ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ผอ.ศปข.ตร.), พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปข.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ตรวจสอบ โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม และ พ.ต.อ. แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

จากการตรวจสอบทราบว่าบุคคลดังกล่าว คือ นายสำราญชัย สอนสา อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 23 หมู่ 13 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

จนต่อมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย.65 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน ชุดจับกุม ได้ตรวจสอบทราบว่า นายสำราญชัยฯ ไปทำงานกรีดยางที่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้านปุ่งแก หมู่ 13 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้ติดตามไปพบนายสำราญชัยฯ นั่งอยู่ข้างกระท่อมในสวนยางพารา เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงท่าทางมีพิรุธต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงได้เข้าควบคุมตัวและแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นตัวและรถ จยย. ผลการตรวจค้นตัว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 1 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในปลอกปากกาเมจิกสีฟ้าซ่อนอยู่ในกระเป๋าข้างเอวด้านขวา 

นายสำราญชัย ยอมรับว่ายาบ้าเป็นของตนเองจริงได้ซื้อมาเพื่อเสพและยอมรับว่าได้เสพยาบ้าจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล โดยนายสำราญชัย ได้รับสารภาพว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันที่ปรากฎอยู่ในคลิปดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 เวลาประมาณ 16.00 น. ตนได้เสพยาบ้า จำนวน 4 เม็ด แล้วเกิดความคึกคะนองจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนท่าอุเทน - ศรีสงครามในลักษณะดังกล่าว 


© Copyright 2022, All rights reserved. Esan Time Thailand
Take Me Top